เยอรมนีติดโควิด-19 รายใหม่กว่า 61,000 คนมากสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ติดเกินครึ่งแสน! เยอรมนีติดโควิด-19 รายใหม่กว่า 61,000 คนมากสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ยกเลิกเทศกาลตลาดคริสต์มาสมิวนิคเป็นปีที่ 2 เสียหายกว่า 180,000 ล้านบาท
วันนี้ 18 พฤศจิกายน 2564 สถาบันวิจัยการควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ ประเทศเยอรมนี หรือ RKI เปิดเผยว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น 65,371 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในเยอรมนีเป็นต้นมา ที่สำคัญยังเป็นตัวเลขติดเชื้อเกิน 60,000 รายเป็นครั้งแรกอีกด้วย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 5,195,321 ราย อยู่อันดับที่ 12 ของโลก และอันดับ 5 ของยุโรป ในขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 264 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 98,538 ราย ขณะนี้อัตราการติดเชื้อในช่วง 7 วันติดต่อกันของเยอรมนีพุ่งทะยานสูงถึง 554.2 รายต่อประชากร 100,000 ราย
นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนี นางแองเกลา แมเคิล กล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดในเยอรมนีเป็นสิ่งที่รุนแรง และเต็มไปด้วยความรุนแรงเต็มที่ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวเยอรมนีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้รีบมารับการฉีดวัคซีนเร็วที่สุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนีมีกำหนดการประชุมกับรัฐบาลทั้ง 16 แคว้นในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการประกาศใช้มาตรการปิดล็อกใหม่ ท่ามกลางแต่ละแคว้นได้มีการบังคับใช้มาตรการและข้อจำกัดในการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่แตกต่างกัน
สำหรับงานเทศกาลตลาดคริสต์มาสประจำปีในเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกถูกยกเลิกการจัดงานในปีนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นการยกเลิกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สาเหตุจากการระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 4 ในปัจจุบันที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ เทศกาลดังกล่าวสร้างรายได้ระหว่าง 3,400-5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 112,200-184,800 ล้านบาท
นายแพทย์คริสเตียน ดรอสเทน กล่าวว่า รัฐบาลเยอรมนีต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างทันที สถานการณ์ระบาดรอบที่ 4 ที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึงท่ามกลางยอดติดเชื้อรายวันที่พุ่งสูงเกิน 45,000 คนเป็นประวัติการณ์ จากการคาดการณ์จะพบว่าประชาชนชาวเยอรมนีอาจเสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 100,000 รายเร็วๆนี้
ทางการแคว้นบาวาเรียประกาศคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั้งแคว้นบาวาเรียโดยมีผลทันที สาเหตุจากภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงเป็นวงกว้างทั้งแคว้น รวมถึงอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงมาก
ทางการเมืองเบอร์ลินประกาศมาตรการห้ามบุคคลใดก็ตามที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสเข้าใช้บริการสถานที่ตามสาธารณะ กำหนดให้ภาคเอกชนหรือเจ้าของธุรกิจให้มีคำสั่งถึงพนักงานทุกคนให้ทำงานจากที่บ้าน และในกรณีจำเป็นต้องเข้าสำนักงานให้จำกัดจำนวนพนักงานไม่เกิน 50% ของปกติ
สถาบันวิจัยการควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ กล่าวว่า ภาวะติดโรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 4 ในขณะนี้อยู่ในกลุ่มประชาชนที่ยังไม่รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับการฉีดเพียง 1 โดส ซึ่งเป็นผลจากขาดการบังคับให้ประชาชนชาวเยอรมนีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้รีบฉีดเร็วที่สุด นอกจากนี้ ชาวเยอรมนีจำนวนมากที่มีทัศนคติในทางลบต่อการรับการฉีดวัคซีน
ปัจจุบัน เยอรมนีทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในรอบแรกได้ครอบคลุมราว 2 ใน 3 หรือ 67% ของประชากรทั้ง 83 ล้านคนทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม พบว่ามีประชาชนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จำนวน 16.2 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3.2 ล้านคน ยังไม่รับการฉีดวัคซีน
เมื่อนับถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 เยอรมนีมีผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้วกว่า 55.1 ล้านคน ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 67.3% ขณะที่มีกลุ่มวัยรุ่นวัย 12-17 ปีฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 40.1% ขณะที่การฉีดเข็มที่ 3 หรือเข็มบูสเตอร์มีมากกว่า 2 ล้านโดสเล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้เยอรมนีเป็นอีกประเทศที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ล่าช้ากว่าอีกหลายประเทศในยุโรป เช่น โปรตุเกสฉีดครอบคลุม 88% สเปนฉีดไปแล้ว 81% เป็นต้น
ทั้งนี้ เยอรมนีเป็น 1 ใน 63 ประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำที่ประเทศไทยประกาศอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจรับรอง สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป