เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวหนุนยอดจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่ ก.พ. 66 พุ่ง 18% แตะ 8,537 ราย

272
0
Share:
เศรษฐกิจ ฟื้น ท่องเที่ยวหนุนยอด จดทะเบียน ตั้ง ธุรกิจ ใหม่ ก.พ. 66 พุ่ง 18% แตะ 8,537 ราย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนก.พ.66 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศในเดือนก.พ.66 จำนวน 8,537 ราย เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,139.78 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่สูงสุดในรอบ 10 ปีของเดือนก.พ.(ก.พ.57-66) เช่นเดียวกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้สถิติการจัดตั้งใหม่สองเดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 11.99%

โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,139.78 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 715 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 619 ราย คิดเป็น 7% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 409 ราย คิดเป็น 5% ตามลำดับ

ส่วนจำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนก.พ.66 มีจำนวน 869 ราย โดยมีมูลค่า ทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 2,939.46 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 89 ราย คิดเป็น 10% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 45 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขายปลีกสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าทั่วไป จำนวน 25 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 28 ก.พ.66) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 857,964 ราย มูลค่าทุน 21.09 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,123 ราย คิดเป็น 23.44% บริษัทจำกัด จำนวน 655,457 ราย คิดเป็น 76.40% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,384 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนก.พ.66 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 61 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 15 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 46 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 21,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 322% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (มกราคม 2566) และเพิ่มขึ้น 274% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ก.พ.65) การลงทุนนักลงทุนต่างชาติ โดยสัญชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์ สำหรับประเภทธุรกิจ ที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ