เศรษฐีจีนแห่ย้ายถิ่นไปต่างประเทศกว่า 10,000 คน ค้นหาคำอพยพพุ่งเกิน 110 ล้านครั้ง

สถานการณ์ชาวจีนที่มีฐานะร่ำรวยรวมถึงชาวจีนที่มีการศึกษาสูงและความชำนาญสูง ได้ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานออกไปอยู่อาศัยในต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เปิดประเทศตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2022 เป็นต้นมา

เฟอร์ลูซา ดจามาโลวา ทนายความที่ปรึกษาอาวุโสด้านการย้ายถิ่นฐาน สำนักกฎหมายโซบริวอส ประเทศแคนาดา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มีความต้องการ และสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการย้ายถิ่นฐานไปประเทศแคนาดา และสหรัฐอเมริกา ทำให้จำนวนคิวจองบริการที่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับในช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้

นิวเวิลด์เวลท์ ซึ่งเป็นหน่วยงานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษาชื่อว่า เฮนรี่ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไปอาศัยในต่างประเทศ พบว่า ชาวจีนย้ายถิ่นฐานออกนอกประเทศเริ่มตั้งแต่ปี 2017 จนถึง ปี 2019 เฉลี่ยปีละกว่า 10,000 คนขึ้นไป แต่เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2020-2021 จนกระทั่งเมื่อปี 2022 มีประชาชนชาวจีนย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศมากถึง 10,800 คน ไม่เพียงทำสถิติมากที่สุดในรอบ 3 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2019 แต่ยังเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศรัสเซีย

นายอลิเซีย การ์เซีย เฮอร์เรโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ เอเชียแปซิฟิก สถาบันการเงินชื่อว่านาทิซิส เอสเอ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ จีนเผชิญกลับเงินทุนในประเทศไหลออกเฉลี่ยปีละ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 ล้านล้านบาท เงินมูลค่าดังกล่าวเกิดขึ้นจากประชาชนชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีความเป็นสูงมากที่มูลค่าเงินไหลออกประเภทดังกล่าวจะเพิ่มสูงมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากชาวจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศในช่วง 3 ปีผ่านมาจากมาตรการปิดประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

ด้านธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี เปิดเผยว่า ปัจจุบันจีนแผ่นดินใหญ่มีจำนวนมหาเศรษฐีราว 32,000 คน มากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองจากสหรัฐอเมริกา มูลค่าความร่ำรวยของมหาเศรษฐีดังกล่าวมีมากกว่าคนละ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.65 ล้านล้านบาท

บริษัทที่ปรึกษาชื่อว่า เฮนรี่ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เปิดเผยต่อไปว่า หลังจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ยกเลิกมาตรการไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม ปี 2022 ผ่านมา พบว่าจำนวนการสอบถามของประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่เกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นฐานพุ่งขึ้นมากกว่า 4 เท่าเพียงไม่กี่วันหลังจากประกาศยกเลิกการเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป หากย้อนกลับไปในปี 2022 จำนวนการสอบถามของประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่เกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นฐานเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าด้วย

บริษัทนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศให้กับลูกค้าที่อยู่ในเอเชีย มีชื่อว่า จูหว่า ไอคิวไอ เปิดเผยว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งยังไม่จบเดือนมกราคม มีปริมาณการสอบถามของลูกค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่พุ่่งขึ้นถึง 55% และอยู่ในระดับดังกล่าวต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงปี 2 ปีผ่านมานั้น การสอบถามดังกล่าวตกต่ำลงถึง -26% และ -11% ในปี 2021 และปี 2022 ตามลำดับ

วีแชท (WeChat) สื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า การค้นหาคำว่า การย้ายถิ่นฐาน หรือ Emigration บนแพลทฟอร์มของวีแชทพุ่งทะยานขึ้นเกือบ 4 เท่า หรือมีจำนวนการค้นหาคำดังกล่าวถึง 110.7 ล้านครั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2022 เมื่อเทียบจากวันก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน

สาเหตุที่มหาเศรษฐีชาวจีนและบุคคลที่มีการศึกษาสูงล้วนต้องการย้ายถิ่นฐานออกนอกประเทศเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้การแถลงการณ์อย่างชัดเจนของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 ว่า จีนจะดำเนินนโยบายความเจริญก้าวหน้าร่วมกันของประชาชนทุกระดับชั้น หรือ Common Prosperity ทำให้มหาเศรษฐีร่ำรวย หรือบุคคลที่มีอยู่ในวงสังคมชั้นสูงล้วนไม่ชื่นชอบกับนโยบายดังกล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงกว่า 2-3 ปีผ่านมา รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ดำเนินมาตรการกวาดล้างธุรกิจเทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และสถาบันการเงินทุกแห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่พบว่ามีการดำเนินกิจการที่ส่อไปในทางทางความเหลื่อมล้ำอย่างมากมาย เพื่อเป็นไปตามนโยบายสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแผ่นดินใหญ่