เสียหายหนัก! อุทกภัยยันภัยแล้งฉุดเศรษฐกิจโลกเสียหายกว่า 200 ล้านล้านบาท

ศูนย์วิจัยการระบาดวิทยาแห่งภัยพิบัติ หรือ CRDE ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เปิดเผยว่า ภาวะภัยแล้งที่เลวร้าย พายุ และฝนตกหนัก ที่เกิดขึ้นบางประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อมูลค่าเศรษฐกิจโลกถึง 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 201 ล้านล้านบาทภายในปี 2050 หรืออีก 28 ปีข้างหน้า

ในปีผ่านมา ภาวะภัยแล้งที่รุนแรง อุทกภัย และน้ำท่วมใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจโลกได้รับความเสียหายมากกว่า 224,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.06 ล้านล้านบาท

ความเสียหายเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับจากภัยธรรมชาติดังกล่าวข้างต้น ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลก อาจได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 133.2 ล้านล้านบาทภายในปี 2050 ดังนั้น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของสหรัฐอเมริกาจะชะลอตัวปีละ 0.5% เมื่อถึงปี 2050

ด้านเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก จะได้รับความเสียหายสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 39.6 ล้านล้านบาทภายในช่วงครึ่งปีของศตวรรษนี้

สำหรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ พบว่า มี 5 กลุ่มธุรกิจสำคัญของโลกที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ภาคการผลิตและการกระจายสินค้า จะได้รับความเสียหายมากที่สุดถึง 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 151.2 ล้านล้านบาทภายในปี 2050 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะการขาดแคลนน้ำ ในขณะที่พายุใหญ่ และอุทกภัยใหญ่ จะทำลายโครงสร้างพื้นฐาน และสต็อกสินค้าจำนวนมาก

ถัดมาเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร ที่จะได้รับความเสียหายถึง 332,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.95 ล้านล้านบาทภายในปี 2050 ตามด้วยกลุ่มธุรกิจค้าปลีก พลังงาน และธนาคาร