เอกชนเตรียมเสนอครม.ใหม่ยืดหนี้ให้เอสเอ็มอี 2 ปี พร้อมแนะกู้เพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สอท. เปิดเผยว่า ภาระกิจสำคัญเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ คือ การตั้งคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เหมือนคณะทำงานแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลดำเนินการได้ผลดีในปัจจุบัน เพราะมี ครม. ใหม่แล้ว การเมืองนิ่งแล้ว คณะทำงานนี้จะเสนอมาตรการในทิศทางเดียวกันทำได้ทันที ไม่ต้องกระจายเป็นย่อยๆ แล้วค่อยๆ เสนอขึ้นมาเหมือนในอดีต ซึ่งล่าช้า
.
โดยเรื่องเร่งด่วนที่คณะฟื้นฟูเศรษฐกิจควรเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาสภาพคล่องของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเอกชนจะเสนอให้มีการยืดหนี้ออกไปอีก 2 ปี แบ่งเป็น 6 เดือนแรกพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 1 ปี ครึ่ง ให้พักเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่อนผันเงื่อนไขให้สถาบันการเงินไม่นับการพักหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เสีย
.
นอกจากนี้จะมีการเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพราะมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งยังมีกำลังซื้อ รวมทั้งภาครัฐต้องเร่งการใช้จ่าย และการเร่งให้บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เข้ามาช่วยค้ำประกันปล่อยกู้ซอฟท์โลนของ ธปท. 5 แสนล้านบาท ที่ขณะนี้ปล่อยกู้ได้เพียง 1 แสนล้านบาท จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น
.
อย่างไรก็ตามผลกระทบจากโควิดทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพราะมูลค่าการท่องเที่ยวของไทยปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท ขณะนี้มีคนตกงานแล้ว 3 ล้านคน ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการใหม่เพิ่มเติม หรือมาตรการเดิมขยายออกไปให้เกิดผลจะมีคนตกงานปีนี้ 6-7 ล้านคน และมีผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการเพิ่มมากขึ้น
.
ที่สำคัญรัฐบาลต้องใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจมากกว่านี้ วงเงินจากการออก พ.ร.ก. 3 ฉบับ 1.9 ล้านล้านบาท ยังไม่เพียงพอ เห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก. กู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาดูแลเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสามารถทำได้เพราะหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ระดับต่ำ