เอสแอนด์พี โกลบอลเผยความน่าเชื่อถือประเทศ-บริษัททั่วโลกถูกหั่นรวมกันมากสุดเป็นประวัติการณ์

910
0
Share:

เอสแอนด์พี โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือเรตติ้งชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า จำนวนประเทศและบริษัทเอกชนทั่วโลกที่ต้องได้รับการปรับลดเรตติ้งลงจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลให้สถานะการเงินด้านหนี้สินเพิ่มสูงมากขึ้นนั้น มีจำนวนรวมกันมากถึง 1,287 แห่ง ซึ่งทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ จำนวนเกือบ 2 ใน 3 ขององค์กรที่ระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ทั่วโลก ต้องเผชิญกับการปรับลดเรตติ้ง ซึ่งเป็นผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เสียหายจากภาวะโรคระบาดโควิด-19

เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยต่อไปว่า ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมากที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ได้แก่ สื่อบันเทิง โรงแรม ท่องเที่ยว รถยนต์ และขนส่ง หากมองในรายละเอียด พบว่า ธุรกิจโรงแรมและบันเทิง มีสัดส่วนการถูกปรับลดเรตติ้งสูงที่สุดถึง 74% ธุรกิจรถยนต์อยู่ที่ 49% ธุรกิจขนส่งอยู่ที่ 43% และธุรกิจสื่ออยู่ที่ 35%

นอกจากนี้ ยังพบว่าจำนวนบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการจัดเรตติ้งให้หุ้นกู้อยู่ในระดับน่าลงทุนนั้น ต้องถูกปรับลดเรตติ้งลงมาอยู่ระดับต่ำสุด หรือเกือบต่ำสุด ในระดับหุ้นกู้ขยะ หรือ Junk Bond ซึ่งหมายถึงไม่สมควรลงทุน มีจำนวน 24 แห่ง
ซึ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วย เช่น ฟอร์ด(รถยนต์) คราฟท์ไฮนส์(ซอสเครื่องปรุง) เรโนลต์(รถยนต์) เดลต้า แอร์ไลน์ส(สายการบิน) เมซี่(ห้างสรรพสินค้า)

ทั้งนี้ มูลค่าตราสารหนี้ของธุรกิจชั้นนำที่จะต้องถูกปรับลดเรตติ้งลงมาถึงระดับล่างสุดมีมูลค่ารวมกันทั้งหมด 444,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 24.5 ล้านล้านบาท สำหรับจำนวนประเทศและธุรกิจเอกชน 1,287 แห่งในปีนี้ ทำลายสถิติเดิมในปี 2009 ซึ่งมีจำนวนประเทศและธุรกิจเอกชนที่ถูกลดเรตติ้งเป็นจำนวน 1,028 แห่ง จากสาเหตุวิกฤตเศรษฐกิจสถาบันการเงินในสหรัฐเมื่อปี 2008 ในตราสารหนี้