เอ้าเฮ! ครม.อนุมัติขึ้น “ค่าแรง” ใน 3 สาขา 17 อาชีพ

399
0
Share:

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น “ค่าแรง” 17 สาขาอาชีพ ตามที่ กระทรวงแรงงาน ได้เสนอเพื่อเป็นการปรับอัตราค่าแรงให้มีความเหมาะสมกับความสามารถ โดยการปรับอัตราค่าแรงครั้งนี้จะอยู่ใรสาขาอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลอด “ค่าแรง” และผู้ที่จะได้ปรับขึ้นค่าแรงจะต้องได้รับใบรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานแล้วเท่านั้น

สำหรับรายละเอียดการปรับขึ้นอัตรา “ค่าแรง” ตามมติ ครม. ทั้ง 3 สาชา 17 อาชีพ มีรายละเอียดดังนี้

สาขาช่างอุตสาหกรรม

1.ช่างระบบถ่ายกำลัง 495 บาท 2.ช่างระบบปั้มและวาล์ว 515 บาท 3.ช่องประกอบโครงสร้างเหล็ก 500 บาท 4.ช่างปรับ 500 บาท 5.ควบคุมระบบงานเชื่อมมิก-แม็กด้วยหุ่นยนต์ 520 บาท 5.ช่างเทคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 545-715 บาท

สาขาช่างเครื่องกล

7.ช่างซ่อมรถแทรกเตอร์การเกษตร 465-620 บาท 8.ควบคุมเครื่องจักรรถตักหน้าขุดหลัง 585 บาท 9.ควบคุมเครื่องจักรรถขุด 570 บาท 10.ควบคุมเครื่องจักรรถลากจูง 555 บาท 11.ควบคุมเครื่องจักรตัก 520 บาท

สาขาภาคบริการ

12นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (โภชนบำบัด) 500-600 บาท 13.นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (นักวารีบำบัด) 500-600 บาท 14.นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (สุคนธบำบัด) 500-600 บาท 15.พนักงานผสมเครื่องดื่ม 475-600 บาท 16.การเลี้ยงเด็กปฐมวัย 530 บาท 17.ช่างเครื่องช่วยคนพิการ 520-600 บาท

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 2555 คณะกรรมการจ้าชุดที่ 18-21 ได้กำหนดอัตรา “ค่าแรง” ตามมาตรฐานฝีมือแรงแล้วจำนวน 112 สาขา เมื่อรวมกับที่กำหนดใหม่ในครั้งนี้อีก 17 สาขา รวมเป็น 129 สาขา

ทั้งนี้การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานจะส่งผลให้ลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ มีค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับทักษะฝีมือแรงงาน ความรู้ ความสามารถและการจ้างงานในตลาดแรงงาน ส่วนลูกจ้างทั่วไปการปรับ “ค่าแรง” ถือเป็นแรงจูงใจให้มีการพัฒนาฝีมือแรงงานและเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ด้านผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกแรงงานที่ฝีมือดีเข้าทำงาน ซึ่งจะทำให้สินค้าและบริการมีคุณภาพและมาตรฐาน ลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิตเพราะจะไม่เกิดความผิดพลาดระหว่างการผลิต

รวมทั้งการปรับอัตรา “ค่าแรง” ใน 17 สาขาอาชีพจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานกึ่งฝีมือและแรงงานฝีมือในสาขาอาชีพที่ขาดแคลน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพิ่มศักยภาพแรงงานไทยให้เป็ยที่ยอมรับทั้งในปละต่างประเทศ

ส่วนการบังคับใช้ หรือ หากมีการผ่านมติครม. แล้ว นั้นลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแห่งชาติใน 17 สาขา ไม่วาก่อนหรือหลังที่มีการออกประกาศและมีผลบังคับใช้ หากมีความต้องการจะใช้สิทธิ์ให้ยื่นหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในอาชีพและสาขาและระดับนั้นแก่นายจ้างโดยเร็ว และเมื่อนายจ้างได้รับหนังสือแล้ว ให้จ่ายค่าจ้างตามอัตราประกาศนี้ให้แก่ลูกจ้าง นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองเป็นต้นไป หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ