แก้หนี้ก่อน! กระทรวงการคลังเร่งสรุปแก้หนี้เกษตรกร เอสเอ็มอี ขยายพื้นที่ใช้เงินดิจิทัล

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงนโยบายพักชำระหนี้กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ว่าผู้อยู่ในข่ายได้รับพักชำระหนี้มีจำนวนไม่เกิน 7 ล้านราย แบ่งเป็น เอสเอ็มอี 3 ล้านราย และเกษตรกร 4 ล้านราย โดยเกษตรกรจะเน้นกลุ่มรายย่อย อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะกำหนดวงเงินพักหนี้เท่าใด

โดยนายจุลพันธ์ กล่าวว่าในหลักการจะพักหนี้กลุ่มรายย่อย ไม่ต้องพิสูจน์ความทุกข์ยากใดๆ คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 14 วัน และเสนอครม.ต้นเดือนตุลาคมนี้ โดยภายในสัปดาห์นี้จะนัดหน่วยงานเกี่ยวข้องสรุปแนวปฏิบัตินโยบายดังกล่าว เชื่อว่าแนวทางการพักชำระหนี้จะทำได้อย่างไม่ติดขัด เนื่องจากเป็นนโยบายที่หลายรัฐบาลเคยทำมาแล้ว อย่างไรก็ดี เมื่อรัฐบาลประกาศมาตรการดังกล่าวออกมาแล้ว ทางลูกหนี้จะต้องมาแสดงตัวเพื่อตอบรับเข้าร่วมโครงการ เมื่อดำเนินเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ นโยบายต่อไปจะดำเนินการคือแก้ไขปัญหาหนี้สินในกลุ่มสหกรณ์ ข้าราชการครู ตำรวจ และรวมถึงปัญหาหนี้นอกระบบ

สำหรับนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทก็จะเร่งพิจารณารายละเอียดควบคู่ไปกับนโยบายพักหนี้เช่นกัน เชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ประชาชนจะได้รับวงเงินและใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ส่วนรายละเอียดแนวปฏิบัติการใช้จ่ายจะต้องหารือให้ชัดเจนก่อน เบื้องต้นสินค้าไม่สามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายได้คือ สินค้าเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหมด รวมถึงสินค้าและบริการของรัฐ เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น เพราะต้องการให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่วนพื้นที่การใช้จ่ายยังไม่สรุปว่าจะให้ได้แค่รัศมี 4 กิโลเมตรนับจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อาจขยายให้ใช้ได้ภายในบริเวณอำเภอที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน