แนวโน้มดี! คลัง ชี้เศรษฐกิจไทย ต.ค.  ได้แรงหนุนจากภาคส่งออกบวก ท่องเที่ยวโต  เงินเฟ้อลด

136
0
Share:

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะ เศรษฐกิจไทย ในเดือนต.. 66 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่าง ๆ

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง และปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 13.7% และ 4.4% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลัง 5.8% และ 1.7% ตามลำดับ


ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.2% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 5.2% และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 0.6% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนตุลาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60.2 จากระดับ 58.7 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตลอดจนมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 23,578.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 8.0% และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า เพิ่มขึ้น 5.4%

นอกจากนี้ด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย รวม 2.20 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 49.7% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า -43.6% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ส่วนการท่องเที่ยวภายในประเทศมีจำนวน 20.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 17.0% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า -12.9%

อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ -0.31% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.66% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ 62.1% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2566 อยู่ในระดับสูงที่ 210.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ