แพคเกจรัฐสนับสนุนการซื้อรถอีวี ยังไม่เข้า ครม.วันนี้ เนื่องจากยังขาดแหล่งเงินสนับสนุน

โดยแพคเกจกระตุ้นยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ระยะเวลา 4 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 68 เพื่อกระตุ้นตลาดรถอีวี ในประเทศไทย เดิมคณะกรรมนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติแพคเกจในวันนี้ แต่ล่าสุดไม่สามารถเสนอได้ทัน เนื่องจากตามแพคเกจ มีมาตรการสำคัญ คือ รัฐจะเป็นผู้สนับสนุนส่วนลดให้ประชาชน คันละ 150,000 บาท ไม่รวมการลดภาษีสรรพสามิต และเว้นอากรนำเข้า ซึ่งส่วนลดดังกล่าวใช้งบประมาณตลอด 4 ปี ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการหาแหล่งเงิน ประกอบกับวิธีการที่รัฐจะน่างบประมาณไปอุดหนุนโดยตรงกับค่ายรถยนต์ ที่ให้ส่วนลดประชาชน ก็ต้องดูระเบียบ วิธีการทางกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งคาดจะเสนอเข้า ครม. ได้ช่วงต้นเดือนมกราคาปีหน้า

ขณะที่นายสุรพงษ์ ไพสิษฐ์พัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่า ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเป็นเหมือนการใช้เงินมาลดราคารถอีวี ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนมีเงิน เกือบ 100 เป็นรถยนต์นำเข้า ซึ่งการทำให้การซื้อรถนำเข้าราคาถูกลง ก็เหมือนนำเงินออกไปนอกประเทศ ประกอบกับผลสำรวจในช่วงที่ผ่านมา พบว่าคนส่วนใหญ่กว่า 70% ยังสนใจรถยนต์ประเภทไฮบริดจ์ ใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังมีอยู่เป็นจำนวนน้อย เนื่องจากยังรอการขยายตัวของสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุม

ทั้งนี้มองว่า มาตรการสนับสนุนรถยนต์อีวี ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมากนั้น หากเปลี่ยนเป็นการสนับสนุนให้ค่ายรถยนต์ มาลงทุนผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย หรือ ให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตในประทศไทย จะได้ประโยชน์มากกว่า