แม็คโดนัลด์จ่อเปิดสาขาใหม่ถึง 10,000 แห่งทั่วโลกในอีก 4 ปีหน้า ดันฐานลูกค้าเพิ่มอีก

แม็คโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เตรียมขยายกิจการด้วยการเปิดสาขาใหม่มากถึง 10,000 แห่งทั่วโลกภายในปี 2027 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า ส่งผลให้เป็นการขยายธุรกิจที่เร็วที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ของแม็คโดนัลด์ หรือนับตั้งแต่ก่อตั้งเป็นต้นมา แม็คโดนัลด์เตรียมจะเปิดร้านสาขาจำนวน 7,000 แห่งในต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดที่ใช้กลยุทธแฟรนไชส์ที่สอดคล้องดับมาตรฐานกับแม็คโดนัลด์ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น บราซิล

นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนการขายที่ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายมากถึง 2 เท่าจากโปรแกรมสมาชิกร้านแม็คโดนัลด์ทั่วโลกที่ต้องมียอดขายรวมเป็น 45,000 ล้านดอลล์สหรัฐ หรือกว่า 1.58 ล้านล้านบาท และเพิ่มจำนวนลูกค้าขึ้นเป็น 250 ล้านคนทั่วโลกภายในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ในปัจจุบัน โปรแกรมสมาชิกร้านแม็คโดนัลด์ทั่วโลกมีฐานลูกค้าราว 150 ล้านคน ซึ่งสร้างยอดขายกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 700,000 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ แม็คโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น นายคริส เคมซิงสกี้ กล่าวว่า ทั้งๆที่ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างเบาบาง แต่ธุรกิจร้านฟาสต์ฟู้ดแม็คโดนัลด์ ยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา สาเหตุจากการปรับเปลี่ยนรายการอาหารหรือเมนูด้วยราคาที่ทำให้ผู้บริโภคยังคงเข้าถึงได้บนข้อจำกัดของกำลังซื้อ ตามด้วยการจัดโปรโมชั่นการขาย และแคมเปญการตลาดที่รุกเต็มรูปแบบ

เอียน บรอดเด้น ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน หรือซีเอฟโอ แม็คโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แผนการเตรียมเปิดสาขามากถึง 7,000 แห่งในต่างประเทศนั้น ราวครึ่งหนึ่ง หรือกว่า 3,500 สาขาจะอยู่ในประเทศจีน เนื่องจากเป็นตลาดมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของแม็คโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น ดังนั้น เมื่อรวมการเปิดสาขาใหม่ทั่วโลกในส่วนที่เหลือนอกจากจีน จะทำให้เป็น 10,000 สาขาใหม่ทั่วโลก ส่งผลรวมกับสาขาเดิมทั่วโลกที่มีอยู่จะเป็นทั้งสิ้น 50,000 สาขาภายในปี 2027

ไม่เพียงเปิดกลยุทธ์ด้วยการตลาดและเป้ายอดขายใหม่ แต่ยังเปิดแนวคิดริเริ่มที่เรียกว่า Best Burger ด้วยเป้าหมายที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพของเบอร์เกอร์ ที่จะนำมาใช้ในเกือบทุกตลาดทั่วโลกในปี 2026 นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในปัจจุบันที่มีร้านสาขาราว 70 แห่งทั่วโลกใช้แนวคิดดังกล่าว

ทั้งนี้ แม็คโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่ อัลฟาเบธ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิ้ล ในการใช้ระบบข้อมูลคลาวด์ (Cloud) สร้างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอในการแก้ไขปัญหา หรือหาทางออกในการสร้างยอดขายให้กับร้านสาขาทุกแห่ง เพื่อเป้าหมายเพิ่มและสิทธิภาพด้านการจัดการต้นทุน และเพิ่มยอดขายด้วย