แรงเขียวต่อ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดกระฉูด 420 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงหลุด 98 ดอลลาร์

214
0
Share:
แรงเขียวต่อ! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดกระฉูด 420 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงหลุด 98 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,827 จุด +423 จุด หรือ +1.31% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,806 จุด +36 จุด หรือ +0.96% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,564 จุด +89 จุด หรือ +0.85% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วงลง -1.4%, -3.35% และ -5.65% ตามลำดับ

สาเหตุจากถึงแม้ว่าอัตราว่างงานในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.5% แต่กลับเป็นเหตุผลที่นักลงทุนประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในอัตราที่ไม่สูงเหมือน 4 ครั้งๆละ 0.75% ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังคงคาดหวังกับผลประกอบการของบริษัทที่ยังคงทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 91.79 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 97.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ทะยานขึ้น 4.7% และ 2.9% ตามลำดับ

สาเหตุจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขจีนแผ่นดินใหญ่ยืนยันจีนยึดมั่นนโยบายไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 อย่างเหนียวแน่น ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวังต่อกระแสข่าวผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,677.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +0.06% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้นเกือบ 2.2% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าอย่างหนาตา รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างรวดเร็ว ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008 หลังจากอัตราการว่างงานเดือนตุลาคมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเกินคาดหมายมาแตะระดับ 3.7% ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจชะลอขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น