แอร์เอเชียเตือนปลดพนักงานอีกระลอก หากไม่เปิดน่านฟ้าอาเซียน

898
0
Share:

นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอร์เอเชีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า แอร์เอเชียจำเป็นต้องปลดพนักงานเพิ่ม รวมถึงปรับลดขนาดของธุรกิจและองค์กรลดลงจากปัจจุบัน ถ้าหากแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียนไม่ทบทวนมาตรการปิดน่านฟ้าในช่วงระยะกลางจากนี้ไป
.
สายการบินแอร์เอเชียได้ปรับลดจำนวนพนักงานราว 30% ไปก่อนหน้านี้จากพนักงานทั้งหมดที่มีถึง 20,000 คนเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งการปรับลดพนักงานราว 30% ในช่วงต้นปีนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และพนักงานปฏิบัติงานสนับสนุนที่อยู่ในสายการบินแอร์ เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่ให้บริการเส้นทางบินระยะกลาง
.
ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย นายโทนี่ เฟอร์นันเดส เปิดเผยต่อไปว่า ผู้นำระดับประเทศควรจะกล้า และดำเนินการตามขั้นตอนในการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ นั่นหมายถึงจะต้องเริ่มต้นที่ไหนสักที่หนึ่ง ดังนั้น จะต้องกำหนดการก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ในการเริ่มต้นนั้น ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นจำนวนน้อย ควรจะเปิดพรมแดนสำหรับการเดินทางข้ามไปมาระหว่างกัน
.
ซีอีโอแอร์เอเชีย ชี้ให้เห็นว่า พรมแดนของประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียควรจะเปิด เช่นเดียวกันกับการเปิดพรมแดนของประเทศสิงคโปร์กับมาเลเซีย ซึ่งได้เปิดให้เดินทางไปมาได้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยและมาเลเซียควรจะมีข้อตกลงการเปิดการเดินทางซึ่งกันและกัน หรือที่เรียกว่า ข้อตกลงกรีนเลนของทั้ง 2 ประเทศ นอกจากนี้ เวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว ควรเปิดน่านฟ้าหรือพรมแดนเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ในฐานะที่เป็นประเทศปลอดภัยจากโรคระบาด
.
ทั้งนี้ สายการบินแอร์ เอเชีย มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรกนี้ที่ 1,800 ล้านริงกิต หรือกว่า 13,500 ล้านบาท ซึ่งตรงกันข้ามกับในปีที่แล้วที่มีผลกำไร 111.78 ล้านริงกิต หรือกว่า 838 ล้านบาท สำหรับในไตรมาสที่ 2 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิสูงถึง 237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,584 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้วซึ่งมีกำไรสุทธิ 17.34 ล้านริงกิต หรือกว่า 130 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่หดหายหนักจาก 2,900 ล้านริงกิต หรือกว่า 21,750 ล้านบาท เหลือเพียง 119 ล้านริงกิต หรือกว่า 893 ล้านบาท