โฆษก ศบค.เผยยังเร็วไปที่จะสรุปเคสดีเจมะตูมติดโควิด ว่าเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือไม่

558
0
Share:

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวถึงกรณีนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม ติดเชื้อโควิด 19 ว่า กทม.เป็นพื้นที่มีคนจำนวนมาก เดินทางง่าย และเป็นศูนย์กลางของประเทศ ไม่แปลกที่จะเจอเคสแบบดีเจมะตูม ทำให้พื้นที่กทม.ยังต้องเป็นพื้นที่ควบคุม เพราะผู้คนอยู่ในพื้นที่จำกัดและใกล้ชิดกัน
.
ซึ่งปัจจุบัน ทางกทม.และกรมควบคุมโรคได้ร่วมมือกันในการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกไปแล้ว 41,508 ราย ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.63 – 20 ม.ค.64 และพบผู้ติดเชื้อ 60 ราย แต่การตรวจหาเชื้อโควิดไม่ใช่ว่าจะพบผู้ติดเชื้อง่ายๆ เพราะเชื้อกระจายไปหลายรุ่นแล้ว จากเดิมที่มีแค่เคสบ่อน หรือตลาดกุ้ง จ. สมุทรสาคร แต่ปัจจุบันมีทั้งจากสถานบันเทิง ครอบครัว ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่คละกันมาก
.
ดังนั้นกลุ่มที่จัดรายการตามห้องส่ง ต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้นในการดูแลเรื่องโควิด เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนหรือก่อนหน้านี้ ผู้จัดรายการแต่ละคนไปที่ไหนมาบ้าง แต่มองว่ายังเร็วไปที่จะสรุปว่าเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ และชื่นชมในการเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียดของดีเจมะตูม ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงควรมีแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ไว้ช่วยจำไทม์ไลน์
.
ดังนั้นเพื่อไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นเกิดประโยชน์สูงสุด ผู้ที่ร่วมงานและใกล้ชิด คิดว่ามีความเสี่ยงเพราะอยู่ในระยะใกล้กว่า 1 เมตร ที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ต้องทำการกักตัว
.
อย่างไรก็ตามการใส่เฟสชิลด์จัดรายการนั้น ไม่ได้ช่วยป้องกันโควิด เพราะละอองฝอยจากน้ำลายยังสามารถหลุดลอดออกมาทางด้านข้างได้ และหากนั่งใกล้กัน 50 ซ.ม. มีโอกาสรับละองฝอยจากน้ำลายเต็มๆ ดังนั้นควรมีระยะห่างของผู้จัดรายการประมาณ 2 เมตร ถึงจะได้ผล แต่หากอยู่ในห้องปิดระยะเวลานาน และอยู่ต้นทางลมแอร์ ก็ต้องเกินกว่า 2 เมตร และต้องใส่หน้ากากอนามัยด้วย