โฆษก ศบค.เผยเคสแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด 19 ถึง 42 ราย เป็นเคสที่ไทยต้องเฝ้าระวังไม่ได้เกิดแบบที่สิงค์โปร์

638
0
Share:

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในวันนี้ 53 ราย โดย 42 รายเป็นแรงงานต่างด้าวในจ.สงขลาว่า ขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ ไม่ได้ทำให้คนจ.สงขลามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปควบคุมพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว
.
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ จะมีผลต่อการปลดล็อคหรือผ่อนปรนมาตรการหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนภาพความเป็นจริง เหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ที่ตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเป็นหลักหมื่น เพราะแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศ เพราะฉะนั้นตอนนี้เกิดขึ้นในไทยแล้วเราก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องดูแล เรียนรู้ และสแกนหาคน เมื่อเจอก็รีบรักษา ดังนั้นขอให้เปิดเผยตัวเลขความเป็นจริง ไม่ปกปิด นำมาสู่ความร่วมมือและจัดการร่วมมือกัน

.
โดนเกณฑ์การปลดล็อคหรือคลายในธุรกิจต่างๆ ต้องดูจากตัวเลข และข้อมูลสถิติตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุข ที่รายงานมายังศูนย์ศบค.ทุกวัน ซึ่งกิจการประเภท สถานบันเทิง-สนามมวย คงยังไม่สามารถเปิดกิจการได้ เพราะมีความเสี่ยงที่คนจะไปรวมตัวอยู่ใกล้กันมากๆ แต่เราก็เปิดให้ผู้ประกอบกิจการ เสนอมาตรการป้องกันโควิด-19 มาได้ โดยท่านเองก็ต้องสามารถปฏิบัติตามมาตรการ ที่ท่านเสนอมาได้ด้วย นั่นถึงจะพิจารณาให้เปิดกิจการได้
.
โดยปัจจุบันยึดหลักที่ตามรายจังหวัด ต้องไม่ผ่อนปรนน้อยไปกว่าส่วนกลาง แต่สามารถเข้มงวดมากขึ้นได้ แต่ไม่ได้บังคับกำชับหรือดูในรายละเอียด แต่ทุกจังหวัด ประชาชน หน่วยงานความมั่นคงเข้มข้นในการดูแลอยู่แล้ว
.
ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อโควิด 19 นั้น ข้อเท็จจริงมีความเสี่ยงแน่นอน ซึ่งการสังสรรค์และการใช้บุหรี่มวนเดียวกัน ก็มีการปนเปื้อนเชื้อจากน้ำลาย ส่วนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นละอองฝอยก็ไปยังผู้อื่น การสูบบุหรี่ทำให้ปอดไม่ดีเพราะมีสารนิโคติน เชื้อโรคต่างๆ เข้าไปจับได้ง่าย บางคนเป็นโรคถุงลมโป่งพองอยู่แล้วก็มีความเสี่ยง
.
.