โพลล์นักค้าเงินชี้บาทร่วงต่อหลังอเมริกาขึ้นดอกเบี้ยแรงอีก 0.75%

362
0
Share:

ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์สเกี่ยวกับมุมมองของนักวิเคราะห์ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศในเอเชียที่มีต่อแนวโน้มค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ พบว่า นักวิเคราะห์เพิ่มน้ำหนักการขายเงินบาทไทยเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ค่าความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่าดังกล่าเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ปี 6 เดือน หรือนับตั้งแต่มกราคม ปี 2018 เป็นต้นมา

สาเหตุจากช่วงต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐที่ปรับขึ้นอีก 0.75% ในคืนผ่านมา ทำให้ขึ้นไปอยู่ที่ระหว่าง 2.25-2.50% ซึ่งห่างกว้างมากขึ้นถึง 1.75-2.00% เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระดับ 0.50% ซึ่งยังไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใดในการประชุมที่ผ่านมาทั้ง 16 ครั้งติดต่อกัน ปัจจัยต่อมาคือ ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ที่เป็นไปได้สูงว่าจะชะลอตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ที่ตั้งเป้าไว้ 5% กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยที่ไม่สามารถพึ่งพารายได้ท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ได้

นอกจากนี้ การนำเข้าพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันดิบของประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศนำเข้าพลังงานสุทธิ ประกอบด้วยราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงผันผวนในทิศทางราคาแพงส่งผลต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยต่อเนื่อง

ค่าเงินบาทของไทยกลายเป็นสกุลเงินที่นักลงทุนและนักค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศยังคงสถานะขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอย่างรุนแรงถึง 14% นับตั้งสงครามรัสเซียกับยูเครนเริ่มต่นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์มาถึงปัจจุบัน และยังร่วงถึง 10.3% เมื่อเทียบตั้งแต่ต้นปีนี้