โรงแรมกว่า 80% เล็งปิดกิจการชั่วคราวไปจนถึงเดือน ต.ค. ขาดสภาพคล่องรุนแรง

475
0
Share:

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า จากการสอบถามสมาชิกอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย.64 อัตราการเข้าพัก เฉลี่ยลดลงจากเดือน มี.ค. เหลือเพียง 5% และโรงแรมกว่า 80% ของสมาชิกสมาคมอาจงดให้บริการชั่วคราวไปจนถึงเดือน ต.ค. จนกว่าสถานะการณ์จะคลี่คลายลง หรือจนกว่ารัฐบาลมีการกระจายวัคซีนฉีดให้คนไทยได้จำนวนมากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

.

สมาคมโรงแรมไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน มี.ค.64 ก่อนการระบาดระลอก 3 จากการสำรวจโรงแรม 128 แห่ง พบว่ามีการเปิดกิจการเพียง 48% และเปิดให้บริการบางส่วน 41% ขณะที่ 11% ปิดกิจการ โดยโรงแรมขนาดใหญ่สายป่านยาวเท่านั้นที่ยังเปิดกิจการ ส่วนโรงแรมที่ปกติรับเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้ปิดกิจการแล้วทั้งหมด

.

เมื่อสำรวจสภาพคล่องของโรงแรมในเดือน มี.ค. โรงแรมส่วนใหญ่ระบุว่ามีสภาพคล่องดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน หรือหากเปิดดำเนินการจะมีเงินจ่ายพนักงานแค่ถึงเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการจ้างงาน ขณะนี้มีการจ้างงานเพียง 55% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยโรงแรมในภาคใต้กลับมาสร้างงานน้อยสุดประมาณ 40% ของอัตราจ้างงานช่วงก่อนการระบาด โดยนโยบายการจ้างงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นการให้ลางาน โดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without pay) ใช้วันลาประจำปี รวมถึงสลับกันมาทำงาน

.

“การระบาดระลอก 3 กระทบโรงแรมอย่างหนัก ซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว สมาคมเตรียมสำรวจลมหายใจของโรงแรมอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม เริ่มเห็นสัญญาณการท่องเที่ยวที่จะกลับมา และคาดกันว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะกลับมาชัดเจน และเข้าสู่ภาวะปกติประมาณปี 66 โดยกลุ่มโรงแรมหรู กลุ่มลักชัวรีจะกลับมาเร็วกว่าอุตสาหกรรมคือปี 65 แต่หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดของระลอก 3 ได้ โอกาสที่โรงแรมจะฟื้นคืนชีพได้คงยาก และต้องยืดเวลาออกไป”

.

นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวต่อไปว่า สมาคมต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1.สนับสนุนค่าจ้างพนักงาน เพื่อไม่ให้มีการลดพนักงาน หรือเลิกจ้าง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจ 2.การพักชำระหนี้เงินต้นหรือดอกเบี้ย 3.มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งนี้ กลุ่มที่พึ่งพาเงินกู้ยืมต้องการให้ภาครัฐพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยมากสุด และกลุ่มที่มีเงินทุนหนามีบริษัทแม่คอยดูแลเรื่องสภาพคล่อง ต้องการให้ช่วยในเรื่องการจ้างงาน และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

.

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คือรัฐบาลควรเร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยให้เร็วที่สุด เพราะวัคซีนคือความหวังเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้ เพื่อให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังมีลมหายใจ และไม่เกิดการเลิกจ้างงานกันอีกระลอกใหญ่เหมือนที่ผ่านมา