โลกติดโควิดวันเดียวกว่า 710,000 คนเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

476
0
Share:

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก ไม่มีแนวโน้มจะทรงตัวแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ภาวะการระบาดทวีความรุนแรงอย่างน่ากลัว โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเช้าวันนี้ 17 ธันวาคม 2563 พบว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก ทะยานแตะ 713,981 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 74,513,888 ราย ทำสถิติใหม่ในการเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ล้านคน โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หรือไม่ถึง 1 วันเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 5 วันผ่านมา
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 พบว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทะยานแตะ 702,512 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 71,419,743 ราย ทำสถิติใหม่ในการเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ล้านคน โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หรือไม่ถึง 1 วัน
.
ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวและเสียชีวิตรายวันถึงวันนี้ 17 ธันวาคม เมื่อเวลา 9.00 น. ทะยานขึ้น 13,428 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 1,654,331 ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรายวันแตะ 12,338 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 1,600,389 ทำสถิติทะลุ 1.6 ล้านคนเป็นครั้งแรก
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 17 ธันวาคม เมื่อเวลา 9.00 น. มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทะยานแตะ 246,541 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ ส่งผลให้จำนวนติดสะสมพุ่งขึ้นแตะ 17,392,000 ราย หรือ 23% ของจำนวนติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่สหรัฐอเมริกา สำหรับ 3 รัฐแรกที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย 1,714,939 ราย เท็กซัส 1,540,991 ฟลอริดา 1,155,335 ราย
.
ในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งแตะ 246,530 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ ส่งผลให้จำนวนติดสะสมในวันนั้นพุ่งขึ้นแตะ 16,295,458 ราย หรือ 23% ของจำนวนติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
.
ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันในสหรัฐ ทะยานขึ้น 3,473 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐ ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมพุ่งขึ้นแตะ 314,564 ราย หรือ 19% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่สหรัฐอเมริกา สำหรับ 3 รัฐแรกที่มีผู้เสียชีวิตสะสมมากที่สุด ได้แก่ นิวยอร์ค 35,945 ราย เท็กซัส 25,146 แคลิฟอร์เนีย 21,883 ราย
.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านไป ชาวอเมริกันเสียชีวิตรายวันถึง 3,019 ราย ทำสถิติมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐในครั้งนั้น และทำสถิติทะลุ 300,000 คนเป็นครั้งแรก
.
นายแอนดริว คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค สหรัฐ กล่าวว่า แน่นอนที่สุด การปิดล็อคทั้งรัฐในเดือนมกราคมเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนชาวนิวยอร์คที่จะปฏิบัติตัวตามคำแนะนำในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ นั่นหมายความว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งทะยาน หรือลดลง สำหรับอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของรัฐนิวยอร์ค เฉลี่ยวันละ 10,294 รายในสัปดาห์ที่ผ่านไป ซึ่งพุ่งขึ้น 7% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ติดกันก่อนหน้านั้น
.
ด้านกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีผลการตรวจเลือดเป็นลบ แต่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังจากไปใกล้ชิดบุคคลที่ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
.
ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ CDC นายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ คาดการณ์ว่าผลพวงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้ในช่วงเวลา 60-90 วันจากนี้ไป ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตรายวันรวมกันมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรม 11 กันยายน หรือ 911 หรือเหตุการณ์โจมตีอ่าวเพิร์ล ฮาเบอร์ ที่เกาะฮาวายในปี 1941 หรือเมื่อ 79 ปีที่ผ่านมา
.
ด้านนายแชด วอล์ฟ รักษาการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า มีคำสั่งขยายระยะเวลาของมาตรการห้ามเดินทางโดยไม่จำเป็นผ่านพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดา และเม็กซิโกออกไปจนถึงวันที่ 21 มกราคม 2564 เช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศขยายระยะเวลามาตรการห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็นผ่านพรมแดนของแคนาดาและสหรัฐไปอีก 30 วัน
.
ทั้งนี้ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค สหรัฐ นายแอนดริว คูโอโม ประกาศมาตรการสั่งปิดบริการรับประทานอาหารภายในร้านอาหาร ผับ บาร์ มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป สาเหตุจากอัตราการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในนิวยอร์ค อยู่ 1.3 นั่นหมายถึง 1 คน สามารถแพร่การจายเชื้อไปติดต่อได้ 1.3 คน นายแอนดริว คูโอโม กล่าวต่อไปว่า จากสถิติทางโรคระบาดวิทยา พบว่า เกือบ 75% ของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในรัฐนิวยอร์ค เกิดจากการรวมตัวในที่สาธารณะ หรือมาจากการระบาดในห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น
.