โอ้โห! หมอธีระชี้ติดคนไทยโควิดกว่า 250,000 คน เศรษฐกิจไทยเสียหายเฉียด 83,000 ล้านบาท

359
0
Share:

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับมูลค่าเศรษฐกิจไทยเสียหายจากคนไทยติดเชื้อสะสมกว่า 250,000 คน

…ทีมวิจัยในอิหร่าน ศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงมีนาคมถึงกรกฎาคม 2563 พบว่าประเทศอิหร่านนั้นมีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลกว่า 42,000 ล้านบาท หากวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายทางตรง ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทางการแพทย์ พบว่า ผู้ติดเชื้อแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายราว 112,000 บาท (3,755 US$)

ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางอ้อม ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียรายได้จากการขาดงาน นอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต พบว่า การติดเชื้อจะทำให้มีการสูญเสียทางเศรษฐกิจไปราวคนละ 349,000 บาท (11,634 US$)

ดังนั้นจากผลวิจัยดังกล่าว เราคงเห็นได้ว่า การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแต่ละรายจนต้องเข้าไปรับการดูแลรักษานั้น ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละกว่า 460,000 บาท

สำหรับในเมืองไทย ยังไม่เห็นผลการวิจัยประเมินฉบับเต็มเกี่ยวกับเรื่องนี้

แค่เพียงลองประเมินดูว่า หากเรามีผลกระทบทางเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายต่างๆ คล้ายกับอิหร่าน

ตอนนี้เราติดไปแล้ว 225,365 คน ตายไปแล้ว 1,693 คน จากธรรมชาติของโรค มีคนที่มีอาการราว 80% หรือประมาณ 180,292 คน และต้องได้รับการดูแลรักษาในสถานพยาบาลรูปแบบต่างๆ ดังที่เราเห็นมา โดยยังไม่นับรวมคนที่อาจติดเชื้อไปและอาจไม่ได้รับการตรวจคัดกรองในระบบ

มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เราสูญเสียไปจากการที่คุมการระบาดไม่ได้จนมีผลลัพธ์ดังที่เห็น คงราว 82,934,320,000 บาท (แปดหมื่นสองพันเก้าร้อยสามสิบสี่ล้านสามแสนสองหมื่นบาท)

อย่างไรก็ตาม นี่คือการประเมินโดยคร่าว บนสมมติฐานข้อมูลค่าใช้จ่ายจากต่างประเทศ ซึ่งของจริงในไทยเราอาจคลาดเคลื่อนจากนี้ได้ ไม่ว่าจะมากขึ้นหรือน้อยลงก็ตาม

แต่เป็นสิ่งที่อยากเตือนใจ ให้ตระหนัก ว่าการเปิดประเทศยามที่ไม่พร้อมจริงนั้น เงินที่ได้มาอาจเทียบไม่ได้กับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น

ที่สำคัญที่สุดในสายตาผมคือ ชีวิตที่สูญเสียนั้นมีค่ายิ่งนัก และเรียกกลับคืนมาไม่ได้ และส่งผลกระทบมหาศาล ชีวิตหนึ่งชีวิตที่สูญเสียอาจส่งผลต่อชีวิตทุกชีวิตในครอบครัว

เราใจแข็งพอที่จะเห็นภาพนั้นจริงหรือ

ประเทศอื่น เปิดเมื่อพร้อม พร้อมทั้งเรื่องการเห็นชัดเจนว่าคุมการระบาดได้ดี ระบบการตรวจคัดกรองโรคมีศักยภาพที่จะทำได้มากและต่อเนื่อง อาวุธป้องกันมีประสิทธิภาพสูง ปริมาณมากเพียงพอ และแจกจ่ายไปให้ประชาชนอย่างถ้วนทั่วแล้ว นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่คุมอย่างเข้มข้นมาก แล้วจึงค่อยๆ ผ่อนคลาย

ลองประเมินเราดูว่าอยู่ในสถานะแบบใด ก็พอจะคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้