ใช้จ่ายวาเลนไทน์ทรุดใน 15 ปี คนไทยไม่พอใจวงเงินคนละครึ่งเฟส 4 เหลือ 1,200 บาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมใช้จ่ายวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ โดยทำการสำรวจจากประชาชน 1,245 ราย ทั่วประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่กว่า 51% มองว่าบรรยากาศวาเลนไทน์ปีนี้คึกคักน้อยลงกว่าปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจแย่ลง ราคาสินค้าแพงขึ้น การแพร่ระบาดโควิด มีรายได้ลดลง และตกงาน

นอกจากนี้ ร้อยละ 83 เลือกจะฉลองกับคู่รักในที่พักบ้านแทนการออกนอกบ้าน มีการใช้จ่ายต่อคนประมาณ 1,176 บาท จึงประเมินว่ายอดเงินใช้จ่ายวาเลนไทน์ จะปีนี้มีมูลค่า 2,068 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 19.20 เป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ขณะที่การใช้จ่ายเงินในเทศกาลวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พบว่า มีทิศทางเดียวกัน ประชาชนระบุว่าจะใช้จ่ายลดลง คาดเงินสะพัดลดลงเหลือ 1,900-2,000 ล้านบาท หรือมูลค่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี นับจากทำการสำรวจ

หอการค้าไทยยังได้เปิดเผยผลสำรวจความพึงพอใจต่อจำนวนเงินคนละครึ่ง ในเฟส 4 ที่ได้รับคนละ 1,200 บาท พบว่า มากกว่าร้อยละ 50% ของกลุ่มตัวอย่าง บอกพอใจน้อย ตามมาด้วยพอใจปานกลาง และไม่พอใจ และเมื่อถามว่าหากสามารถเพิ่มวงเงินได้ อยากเพิ่มอีกกี่บาท พบว่าร้อยละ 64.7 ขอเพิ่มเป็น 3,000 บาท และอีกร้อยละ 28.3 ขอเพิ่มเป็น 5,000 บาท

ที่สำคัญ ยังพบว่ากว่าร้อยละ 94.4 ของกลุ่มตัวอย่าง อยากให้มีโครงการคนละครึ่งต่อ โดยร้อยละ 31.2 ขอต่ออีก 1 เดือน รองลงมา ขอต่ออีก 6 เดือน และขอวงเงินใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาทต่อเดือน