ไทยแห่เที่ยวนอกปีนี้แตะ 1 ล้านคน ค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่นแพงขึ้น 35%

400
0
Share:

นายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และอุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ในปี 2565 คนไทยมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น คาดว่าตลอดทั้งปีจะมีจำนวน 1 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งหรือร่วม 500,000 คน จะไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไข ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ และต้องมีไกด์นำเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันญี่ปุ่นจัดให้ประเทศไทยอยู่ใน 68 ประเทศที่เป็น Blue Zone จึงไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccination Certificate) เขาไม่ดูว่านักท่องเที่ยวไทยมีประวัติฉีดวัคซีนมาแล้วกี่เข็ม

ด้านค่าใช้จ่ายราคาแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน มีการปรับราคาขึ้น 30-35% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากต้นทุนพุ่ง ทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ส่งผลต่อค่าตั๋วเครื่องบินและค่ารถบัสนำเที่ยวในญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ยังมีสถานการณ์เงินเฟ้อที่ส่งผลต่อค่าที่พักและค่าอาหารสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายจำเป็นเพิ่ม เช่น ค่าวีซ่า ประมาณ 1,500 บาทต่อคน และค่าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ทั้งขาเข้าและขาออกจากญี่ปุ่น ประมาณ 5,000 บาท

ทั้งนี้ ราคาขายแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นในปัจจุบันจะอยู่ที่ 40,000-60,000 บาท สำหรับการเดินทาง 5 วัน 3 คืน และ 6 วัน 4 คืน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ก่อนโควิดซึ่งขายที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท