ไม่ถดถอย! ไทยพาณิชย์ มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ มีแนวโน้มแค่ชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย ฟื้นตัวจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในปี 2567
ดร.กำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2566 มีแนวโน้มจะแค่ชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย และจะฟื้นตัวได้แบบค่อยเป็นค่อยไปในปี 2567 โดยอ้างอิงจากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook)ฉบับล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ระบุว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะเห็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ติดลบ (เศรษฐกิจโลกหดตัว) ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกถดถอย และเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตในช่วงปี 2566-2567 ยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (ในช่วงปี 2543-2562)
สำหรับ ปัจจัยบวกหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลก สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปได้ ประกอบด้วย 1) การเปิดเมืองและเปิดประเทศของจีน 2) เศรษฐกิจยุโรปมีความแข็งแกร่งและสามารถจัดการกับวิกฤติพลังงานได้ดีกว่าคาด 3) ตลาดแรงงานทั่วโลกค่อนข้างแข็งแกร่งบวกกับความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (pent up demand) หลังเปิดเมืองเปิดประเทศ ทำให้อุปสงค์ในประเทศส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ดี
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ 2) ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่แม้ชะลอลง (disinflation) แต่อาจชะลอช้าทำให้ดอกเบี้ยต้องค้างในระดับสูงนาน 3) ความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะจากความแตกต่างเรื่องดอกเบี้ยระหว่างสิ่งที่ตลาดคาดและสิ่งที่ธนาคารกลางหลักจะทำ และ 4) ความเปราะบางของภาครัฐ ธุรกิจ และครัวเรือนที่มีภาระหนี้สูง
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน SCB CIO ประเมินว่า ยังเป็นโอกาสดีที่จะสะสมหุ้นกู้คุณภาพสูง โดยความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง เงินเฟ้อที่ลงช้าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และการขึ้นดอกเบี้ยต่อของ Fed ในช่วงครึ่งปีแรก ยังทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวยังมีการเร่งขึ้นในช่วงสั้น ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะสะสมหุ้นกู้คุณภาพสูง
ขณะที่ กลุ่มกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย หรือ Asian REITs ก็มีความน่าสนใจมากขี้น จากการเปิดเมืองเปิดประเทศของจีนและอาเซียน ส่งผลบวกต่ออัตราการเช่าและค่าเช่า (Occupancy rates and rental rates ) ในอนาคตของ REITs ทั้งในกลุ่มโรงแรม และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Retail and Industrial & warehouse) โดยเฉพาะในไทยและสิงคโปร์ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก โดย SCB CIO ประเมินว่าการกลับมาเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยและสิงคโปร์ขยับขึ้นในช่วงสั้นนี้ เป็นจังหวะดีที่จะเข้าทยอยสะสม REITs ของไทยและสิงคโปร์