ไม่มั่นใจ! ดัชนีผลผลิตอุตฯ ส.ค. วูบกว่า 7% จากส่งออกหด เศรษฐกิจฟื้นช้า หนี้พุ่งกดดัน

180
0
Share:
ไม่มั่นใจ! ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค. วูบกว่า 7% จากส่งออกหด เศรษฐกิจฟื้นช้า หนี้พุ่งกดดัน

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนสิงหาคม ปี 2566 ว่า เอ็มพีไออยู่ที่ระดับ 91.85 ลดลง 7.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-สิงหาคม) ลดลง 4.95% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 58.18% และช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่เฉลี่ย 60.09% เนื่องจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก และกําลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมลดลง

ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวช้า มีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและหนี้ภาคธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวนจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรและรายได้ของเกษตรกรลดลง กดดันกําลังซื้อในส่วนภูมิภาค

อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวช่วยสนันสนุนการบริโภคในประเทศ ผลจากมาตรการวีซ่าฟรีให้กับ 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลง โดยเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ 0.88%

ทั้งยังต้องติดตาม นโยบายของรัฐบาลใหม่ อาทิ กระเป๋าเงินดิจิทัล การแก้ปัญหาหนี้สิน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน การผลักดันสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ โดยจะเกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศพร้อมกัน

เบื้องต้นประมาณการดัชนีเอ็มพีไอ ปี 2566 คาดว่าจะลดลง 2.8 – 3.8% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรม คาดว่าปี 2566 จะลดลง 1.5 – 2.5% โดยเป็นการปรับประมาณการล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

สำหรับปี 2567 ยังไม่ได้ประมาณการเป็นตัวเลข แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะขยายตัว และจะทำการประมาณการและแถลงข่าวในเดือนพฤศจิกายน 2566