ไม่มีถอน! รองประธานธนาคารกลางสหรัฐทุบโต๊ะ ไม่ถอนขึ้นดอกเบี้ยเร็วก่อนเวลาแน่
รองประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นางราเอล เบรนนาร์ด กล่าวว่า นโยบายการเงิน หรือการใช้ดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะต้องตึงตัวไปอีก เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกากลับเข้าสู่เป้าหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าว เฟดให้ความทุ่มเทอย่างแน่นอนที่จะต้องหลีกเลี่ยงการถอนมาตรการดอกเบี้ยระยะสั้นที่เร็วเกินกำหนด นโยบายการเงินถูกใช้เพื่อเน้นการสร้างเสถียรภาพราคาท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงมาก
การใช้นโยบายดังกล่าวหรือดอกเบี้ยระยะสั้นจะกินเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบกับภาวะการเงินที่จะต้องตึงตัวในที่สุด ซึ่งเป็นผลจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ทำงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันของเงินเฟ้อ มาถึงปัจจุบันนั้น ถือว่าเป็นการเร็วเกินไปมากที่เฟดจะประกาศชัยชนะกับแรงกดดันของราคาต่างๆที่อยู่ในระดับสูงขิงระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ขณะนี้ภาวะเงินเฟ้ออยู่สูงมากทั้งในสหรัฐอเมริกา และในต่างประเทศ นั่นหมายถึงความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อช็อคเพิ่มเติม จึงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ หรือมองข้ามไม่ได้
รองประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นางราเอล เบรนนาร์ด กล่าวต่อไปว่า จุดหมายปลายทางของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดยังไม่เป็นที่แน่นอนในเวลานี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนมีอยู่สูงมาก เฟดจะต้องทำงานให้เกิดความมั่นใจว่าการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นจะส่งผลอย่างไรกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
นางแมรี่ ดารี่ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า การลดอัตราเงินเฟ้อคือภาระกิจสำคัญที่สุดของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก่อนที่เฟดจะก้าวต่อไป และมีความเป็นห่วงในภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้น เราควรจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงในเส้นทางที่เห็นชัดเจนว่ามีความจำเป็นต้องลดตัวเลขเงินเฟ้อลงมา
นายโทมาส บาร์กิ้น ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า มีความกังวลอย่างมากที่ตัวเลขเงินเฟ้อซึ่งมีอัตราสูงอย่างเข้มข้น จะกลายเป็นปัญหาที่ยากเกินกว่าแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงและรวดเร็วจะแก้ไขได้ในระยะเวลาที่ประเมินไว้ ในเวลานี้ ความเสี่ยงของเงินเฟ้อเร่งขึ้นกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงขนาดใหญ่เกินกว่าภาวะเงินเฟ้อที่จะลดลง และเฟดจะต้องควบคุมภาวะดังกล่าว
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นมาอยู่ระหว่าง 3.00-3.25% ซึ่งปรับทะยานขึ้นถึง 3% นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2565 เป็นต้นมา โดยเป็นการปรับขึ้น 5 รอบการประชุมติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมีนาคมมาถึงวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านไป โดย 3 ครั้งสุดท้ายจากทั้งหมด 5 ครั้ง เฟดปรับเพิ่มสูงถึง 0.75% ติดต่อกัน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะขึ้นไปถึงระดับ 4.25-4.50% สิ้นสุดปีนี้ ที่สำคัญ เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวถึงระดับ 4.50-4.75% ในปี 2566
