ไม่ล้มดีล! บางจากยันไม่ล้มดีลควบรวมเอสโซ่แน่นอน กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคำสั่ง กขค.

329
0
Share:
ไม่ล้มดีล! บางจาก ยันไม่ล้มดีลควบรวม เอสโซ่ แน่นอน กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคำสั่ง กขค.

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา 6 เงื่อนไขอย่างละเอียดตามที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้กำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขประกอบการอนุญาตให้รวมธุรกิจ ระหว่าง BCP และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ ESSO เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรวมธุรกิจ โดย BCP ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมวิเคราะห์คำสั่งและปรึกษาหารือก่อนจะมีข้อสรุป ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

โดยหากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำสั่งและเงื่อนไขของ กขค. ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองภายใน 60 วัน นับจากวันที่ได้รับคำสั่ง ซึ่งก็ยังอยู่ในช่วงกำหนดเวลาที่บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าดีลซื้อเอสโซ่จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ยืนยันว่าไม่ล้มดีลซื้อ ESSO แน่นอน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) พิจารณาคำขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามมาตรา 52 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แล้ว เห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม การรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างตลาดโรงกลั่นน้ำมัน ตลาดการค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และตลาดการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการ ทำให้การกระจุกตัวของตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ถึงระดับที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง จึงเห็นควรอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบางจาก และ เอสโซ่

ทั้งนี้ บางจากฯจะดำเนินการซื้อหุ้น 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของเอสโซ่จาก ExxonMobil ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้น ESSO ที่เหลือทั้งหมดภายใน 25-45 วัน มั่นใจว่าการทำธุรกรรมจะสิ้นสุดหรือจบดีลภายในสิ้นปี 2566 ส่วนราคาซื้อขายหุ้นสุดท้ายคงต้องรองบการเงินของ ESSO ในไตรมาส 2/2566 แล้วเข้าสูตรในการคำนวณออกมาเป็นราคาเสนอซื้อหุ้น ESSO เชื่อว่าราคาสุดท้ายจะอยู่ในช่วงที่ 8-9 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอซื้อหุ้น ESSO จาก ExxonMobil และใช้ในการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ ซื้อหุ้นESSOคืนจากรายย่อย คิดเป็นมูลค่ากิจการ 5.5หมื่นล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนในการซื้อหุ้น ESSO นั้นมาจากกระแสเงินสดและการกู้ยืมจากสถาบันการเงินด้วย