ไล่เก็บหุ้น! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์หล่นอีก 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 77 ดอลลาร์

149
0
Share:
ไล่เก็บหุ้น! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ หล่นอีก 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 77 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,531 จุด -30 จุด หรือ -0.09% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,137 จุด +18 จุด หรือ +0.45% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,306 จุด +126 จุด หรือ +1.04%

สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานและทั่วไปของเดือนเมษายนที่ประกาศในวันคืนผ่านมานั้น พบว่าเพิ่มขึ้น 0.7% และเพิ่มขึ้น 4. 4.9% ในขณะที่ตามตัวเลขคาดการณ์จะอยู่ที่ 5% ส่งผลให้นักลงทุนเพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนมิถุนายนอาจจะตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีผ่านมา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับสูงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเฝ้าจับตามองสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.6% ทำให้หยุดราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดขึ้น 3 วันทำการติดกันก่อนหน้านี้รวม 5.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3% ทำให้หยุดราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ปิดขึ้น 3 วันทำการติดกันก่อนหน้านี้รวม 4.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนและนักวิเคราะห์วงการน้ำมันดิบโลกประเมินว่า ผลจากเงินเฟ้อเมษายนในสหรัฐอเมริกาแม้จะเพิ่มขึ้นไม่ถึงตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.0% แต่แนวคิดที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกันในการประชุมเดือนหน้ากลับมีความเป็นไปได้ ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ถดถอยมากขึ้น

ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า คาดการณ์ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกาตามฤดูกาลในปีนี้จะเพิ่มขึ้นท่ามกลางปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะลดต่ำลง

นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,068 ล้านล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,039.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.9% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,037.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ -5.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -0.3%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อเดือนเมษายนในสหรัฐอเมริกากลับเพิ่มขึ้นไม่สูงกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าเพิ่มเป็น 4.9% ในขณะที่ตามตัวเลขคาดการณ์จะอยู่ที่ 5% ส่งผลให้นักลงทุนเพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนมิถุนายนอาจจะตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนเมษายนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักลงทุนจะรอประเมินผลกระทบอีกครั้ง