ไวรัสโคโรนากระทบชิ้นส่วนรถยนต์

1180
0
Share:

หลังจากปัญหาของไวรัสโคโรนาได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และทำให้ทางการจีนประกาศปิดเมือง ส่งผลให้สินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศจีนถูกตัดขาด ซึ่งส่งผลต่อซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน แม้ว่าในความเป็นจริงอาจจะเป็นการปิดเพียงบางโรงงาน แต่ระบบโลจิสติกส์ในเมืองอู่ฮั่นก็อยู่ในสภาพหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
.
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “ฮุนได มอเตอร์ส” บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังสัญชาติเกาหลีใต้ประกาศระงับการผลิตชั่วคราวสำหรับโรงงานของฮุนไดในเกาหลีใต้ เนื่องจากสาเหตุการขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าจากจีนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
.
ฮุนไดเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศระงับการผลิตชั่วคราวสำหรับโรงงานนอกประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ เช่น ฟอร์ด, นิสสัน และพีเอสเอ สั่งปิดโรงงานของตนในประเทศจีน ซึ่งเป็นคำแนะนำจากรัฐบาลปักกิ่งเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค
.
ซึ่งรายงานข่าวยังระบุว่า ปี 2562 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีน 1,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
ด้านโรงงานผลิตรถยนต์ย่านพื้นที่อีอีซี ในประเทศไทย ระบุว่าถึงตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบชัดเจน แต่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในไทยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะบางชิ้นส่วนอาจไม่ได้ส่งเข้าโรงงานประกอบรถยนต์โดยตรง แต่ส่งให้กับซัพพลายเออร์ระดับเทียร์ 1 และเทียร์ 2 ดังนั้นหากสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องหาแหล่งผลิตใหม่ทดแทน โดยชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังมีสต๊อกรองรับเพียงพอไปอีกกว่า 2 เดือน ซึ่งทุกฝ่ายประเมินว่าสถานการณ์จะไม่ยืดเยื้อ
.
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการบริษัท ฮอนด้า ออโต โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ฮอนด้าจะมีการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์จากจีน โดยเฉพาะจากเมืองอู่ฮั่น ฮอนด้ายังยืนยันว่าสถานการณ์ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ฮอนด้า และยังมีสต๊อกเพียงพอรองรับการผลิตได้อีกพอสมควร
.
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เอ็มจีไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ชิ้นส่วนจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เนื่องจากได้กระจายความเสี่ยง โดยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากหลายพื้นที่ในประเทศจีน วันนี้บริษัทยืนยันว่าสถานการณ์ผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า แม้จะส่งผลต่อการผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในจีน แต่สำหรับเอ็มจีไทยแลนด์ยังไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้
.
โดยสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการหาแหล่งผลิตทดแทนการใช้ชิ้นส่วนจากเมืองจีน จากนี้คงต้องจับตาดูว่า ปัญหาจะลุกลามส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์มากแค่ไหน แต่ช่วงนี้ก็ถือว่าไม่รุนแรงมาก อุตฯรถยนต์อยู่ในช่วงขาลงแต่ละค่ายก็มีลดกำลังการผลิตกันบ้างแล้ว
.
ส่วนนายโมะริคาซุ ซกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนใหญ่ของมิตซูบิชิ มาจากโรงงานในประเทศไทย แต่ก็ยอมรับว่ามีชิ้นส่วนบางประเภท ที่มิตซูบิชิต้องนำเข้าจากจีน ทำให้ต้องมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด และหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรต่อไป
.
อย่างไรก็ตามมองว่า จากปัญหาดังกล่าว บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังชะลอตัว อาจะต้องทบทวนแผนการผลิตใหม่ให้เหมาะสม เพราะร้อยละ 80 ของยอดผลิตทั้งหมด เป็นการผลิตเพื่อส่งออก เบื้องต้นประเมินภาพรวมยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2563 นี้ ว่ามีแนวโน้มหดตัว จาก 1 ล้านคันในปีที่แล้ว ลงมาเหลือเพียง 920,000 – 950,000 คันในปีนี้
.
แต่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) มีแผนลงทุนราว 7,000 ล้านบาท ปรับปรุงโรงงานในไทย และมีแผนผลิตรถพลังงานไฟฟ้า (EV) และ PhEV ประเภทปลั๊กอินไฮบริด ที่โรงงานผลิตแหลมฉบังในปี 2564 ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,130 ล้านบาท โดยจะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นหลัก