ไอเทมฮอต! คนไทยสั่งถุงยางอนามัยวันละกว่า 1,500 ซอง ขึ้นแท่นสินค้าขายดีตอนกลางคืน
แกร็บ (Grab) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบริการส่งอาหารเครื่องดื่ม บริการรถยนต์สาธารณะ และบริการซูเปอร์แอปในอาเซียน เปิดเผยพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มแกร็บมาร์ท (GrabMart) ของผู้บริโภคคนไทย โดยนางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าในช่วงระยะเวลา 4 ช่วงในแต่ละวัน ผู้บริโภคชาวไทยสั่งซื้อสินค้ากลุ่มอาหารของสด และของใช้ภายในบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีในช่วงเวลากลางวัน ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มสินค้าจำเป็น ได้แก่ ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัย และน้ำดื่ม เป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงเวลากลางคืน
รายละเอียดมีดังนี้ ช่วง Fresh Start Morning ระหว่างเวลา 05:00 น. ถึง 09:00 น. สินค้าที่ขายดีในช่วงเช้าตรู่ คือ ไข่ไก่ นมสดและนม UHT รวมถึงกาแฟกระป๋อง โดยแต่ละวันมียอดเฉลี่ยในการซื้อไข่ไก่บนแกร็บมาร์ทสูงถึง 36,000 ฟอง และนมสดสูงถึง 18,000 ลิตร
Daytime Cooking ระหว่างเวลา 09:00 น. ถึง 16:00 น. พบว่า สินค้าประเภทของสดหรือผลิตภัณฑ์สำหรับการปรุงอาหารมากกว่าช่วงอื่นๆ สูงถึง 25% โดย 5 ประเภทสินค้าขายดี ประกอบด้วย ผักสด ผลไม้ เนื้อหมู เนื้อไก่ และเครื่องปรุงรส และ 3 เมนูอาหารที่กลุ่มแม่บ้านนิยมปรุงมากที่สุด คือ สเต็ก สุกี้ และข้าวผัด นอกจากนี้ แต่ละวันมียอดเฉลี่ยในการซื้อสินค้าประเภทเนื้อสัตว์เพื่อใช้ทำอาหาร (หมู ไก่ เนื้อ ซีฟู้ด) บนแกร็บมาร์ทสูงถึง 4 ตัน และผัก-ผลไม้มากกว่า 4,100 กิโลกรัม
Evening Celebration ระหว่างเวลา 16:00 น. ถึง 22:00 น. พบว่า สินค้าที่ขายดีในช่วงเวลานี้ คือ น้ำแข็ง โซดา น้ำอัดลม รวมถึงขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะยอดขายขนมขบเคี้ยวในช่วงระหว่างเวลา 16:00 น. ถึง 18:00 น. สูงกว่าช่วงเวลาอื่นถึง 30% แต่ละวันมียอดเฉลี่ยในการซื้อสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวบนแกร็บมาร์ทสูงถึง 12,800 ซอง และน้ำอัดลมมากกว่า 17,000 ขวด/กระป๋อง
สุดท้าย Overnight In Need ระหว่างเวลา 22:00 น. ถึง 05:00 น. พบว่า กลุ่มสินค้าที่จำเป็นหรือไอเทมที่ขาดไม่ได้ โดย 5 อันดับสินค้าขายดี คือ ถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ผ้าอนามัย น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำดื่ม ที่สำคัญ แต่ละวันมียอดเฉลี่ยในการซื้อถุงยางอนามัยบนแกร็บมาร์ทสูงถึง 1,500 ซอง และผ้าอนามัยมากกว่า 1,120 ชิ้น
ดังนั้น แกร็บมาร์ท จึงเตรียมความพร้อมในการทำตลาดในกลุ่มควิกคอมเมิร์ซด้วยการนำเสนอกลยุทธ์ “Habitual Marketing” หรือการประชาสัมพันธ์สินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลามากขึ้น นอกจากนี้ จะเน้นกลยุทธ์เจาะกลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มคนเจนเนอเรชั่น Y ที่ยังมีสถานะโสด ซึ่งพบว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีการบริโภคปริมาณสูงของตลาดนี้
แกร็บมาร์ท เปิดเผยต่อไปว่าธุรกิจค้าปลีกในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ว่าในปีนี้ตลาดค้าปลีกจะมีมูลค่าในภาพรวม 3.7 ล้านล้านบาท ด้วยการขยายตัว
10% โดยเฉพาะตลาดอีคอมเมิร์ซที่ประเมินว่าจะเติบโตกว่า 10.5% สร้างมูลค่าถึง 820,000 ล้านบาท สาเหตุจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการการบริโภคของประชาชนกลับคืนมาหลังวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19
