ไอเอ็มเอฟเชื่อจีนมีเครื่องมือรับวิกฤตหนี้ยักษ์อสังหาฯเบอร์ 2

ไอเอ็มเอฟเชื่อจีนมีเครื่องมือรับวิกฤตหนี้ยักษ์อสังหาฯเบอร์ 2 แต่จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด หวั่นลามรุนแรงถึงเศรษฐกิจจีนทั้งหมด
.
นางกีต้า โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟเฝ้าจับตาประเมินสถานการณ์ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างใกล้ชิดมากๆ ไอเอ็มเอฟยังคงมีความเชื่อว่าทางการจีนแผ่นดินใหญ่มีเครื่องมือ และนโยบายที่จะป้องกันไม่ให้กลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนแผ่นดินใหญ่มีขนาดใหญ่มากของเศรษฐกิจจีน และการที่บริษัทเอเวอร์แกรนด์จะเกิดภาวะเบี้ยวหนี้นั้น จะส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงระบบการเงินของจีนแผ่นดินใหญ่
.
ด้านความคืบหน้าของบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ธุรกิจพักอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเผชิญกับภาวะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สะสมสูงที่สุดในโลกกว่า 9 ล้านล้านบาทนั้น เปิดเผยว่า เอเวอร์แกรนด์อาจจะจ่ายดอกเบี้ยของหุ้นกู้บริษัทฯที่ขายให้นักลงทุนในประเทศภายในวันเส้นตายที่ 23 กันยายนนี้ จำนวน 35.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,220 ล้านบาท นอกจากนี้ เอเวอร์แกรนด์ยังต้องจ่ายผลตอบแทนของหุ้นกู้ให้นักลงทุนต่างประเทศจำนวน 83.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,840 ล้านบาทในวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายนนี้ด้วย และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้อีกชุดหนึ่งจำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,615 ล้านบาทในวันที่ 29 กันยายนนี้ซึ่งเป็นวันครบกำหนด
.
ทั้งนี้ ธนาคารเอดีบีประเมินเศรษฐกิจจีนปี 2564 จะขยายที่ 8.1% แต่จะชะลอตัวต่ำกว่า 6% มาเหลือเพียง 5.5% ในปี 2565 ด้านนายอับดุล เอเบียด ผู้อำนวยการฝ่ายงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารเอดีบี เปิดเผยว่า วิกฤตหนี้สะสมของบริษัทอสังริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ในจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ถ้าหากภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ จะสะเทือนถึงเศรษฐกิจในภาพรวมของจีนแผ่นดินใหญ่