2 ธนาคารยักษ์ในสหรัฐ คาดดอกเบี้ยสหรัฐลดครั้งแรกกลางปีหน้า กลับคืนปกติในอีก 2-3 ปี

257
0
Share:
2 ธนาคารยักษ์ในสหรัฐ คาด ดอกเบี้ย สหรัฐ ลดครั้งแรกกลางปีหน้า กลับคืนปกติในอีก 2-3 ปี

ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็น 2 ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในมุมมองคล้ายกัน โดยความแตกต่างอยู่ที่ขนาดการลดดอกเบี้ยดังกล่าว

นายเอลเล็น เซ็นท์เนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ สำนักวิจัยเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์่ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงอย่างรุนแรงภายในช่วง 2 ปีจากนี้ไป โดยเริ่มต้นลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ในระดับสูงกว่า 22 ปี ในเดือนมิถุนายนปี 2024 จากนั้นจะลดครั้งที่ 2 ในการประชุมเดือนกันยายน หลังจากนั้น เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งละ 0.25% ในการประชุมทกครั้งไปจนกระทั่งถึงเดือนธันวาคมปี 2024 ดังนั้น เฟดจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่ำแตะที่ระดับ 2.375% ภายในสิ้นปี 2025

นายเดวิด เมอร์ริเคิล นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และลดดอกเบี้ยทุกๆครั้งในแต่ละไตรมาสเรื่อยไปจนถึงกลางปี 2026 รวมเฟดปรับลดลงทั้งสิ้น 1.75% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะอยู่ระหว่าง 3.5%-3.75%

เมื่อพิจารณาการคาดการณ์ของทั้ง 2 ธนาคารจะพบว่า มุมการคาดการณ์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ จะมีความใกล้เคียงกับมุมมองของกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเมื่อเดือนกันยายนผ่านมานั้น เฟดเปิดเผยว่า อาจปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงครั้งละ 0.25% ในปี 2024 และภายในสิ้นปี 2025 อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะลงมาอยู่ที่ระดับ 3.9%

สำหรับตัวเลขคาดการณ์อื่นๆ ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ พบว่า ในปี 2025 ประเมินอัตราการว่างงานว่าจะพุ่งสูงขึ้นไปถึง 4.3% อัตราการขยายตัวอยู่ที่ 1.4% และอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 2.1% ด้านธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่าอัตราการว่างงานว่าจะไปถึง 3.6% อัตราการขยายตัวอยู่ที่ 1.9% และอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 2.2% ในขณะที่ เฟดประเมินว่าอัตราการว่างงานว่าจะไปถึง 4.1% อัตราการขยายตัวอยู่ที่ 1.8% และอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 2.3%