EIC คาดโคโรนาทำ GDPไทยทรุดหนักรอบ 5 ปี

898
0
Share:

สำนักวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ EIC เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม จากมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดของจีน อีไอซีคาดว่าผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวไทยน่าจะมีมากที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2020 และจะมีการฟื้นตัวได้หลังจากนั้น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยจะหดหายแตกต่างกันไป โดยในกรณีดีที่สุด จะติดลบ 3 เดือน กรณีปานกลาง จะติดลบ 4 เดือน และเลวร้ายที่สุดจะติดลบ 6 เดือน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2563 จะลดลงที่ -2.5%, -4.6% และ -8.1% ตามลำดับ นอกจากนี้ ด้านส่งออกของไทยยังได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยผลกระทบในกรณีปานกลางนั้น อีไอซีประมาณการอัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกของไทยปี 2563 จาก 0.2% ลงเหลือ -1.0% นั่นหมายถึงส่งออกไทยติดลบถึง 2 ปีติดต่อกัน
.
ปัจจัยลบต่อมา คือความล่าช้าในการผ่าน ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 จะส่งผลให้การลงทุนภาครัฐลดลงอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 1/2563 และเมื่อพิจารณาผลกระทบจากทั้ง 2 ปัจจัยดังกล่าว อีไอซีปรับประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2563 หรือจีดีพีปีนี้ ลงเหลือ 2.1% จากเดิมที่ 2.7% ในกรณีปานกลาง ดังนั้น จากผลกระทบของทั้ง 2 ปัจจัยข้างต้นนั้น อีไอซีคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้ง หรือ 0.25% มาอยู่ที่ 1.00% ภายในไตรมาสแรกของปีนี้
.
ทั้งนี้ โรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ยังส่งผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงต่อจีนแผ่นดินใหญ่ คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2563 ทำให้มีการปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้จากเดิม 5.8% เป็น 5.4% ซึ่งนอกจากจะเป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตในระยะถัดไป
.
ภาวะโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตอุตสาหกรรมในระดับเครือข่ายรับช่วงการผลิตในเอเชียแล้ว ฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ชื่อดังในเกาหลีใต้ ประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ในเกาหลีใต้ สาเหตุจากโรคระบาดปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 กระทบโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากจีนที่ยังคงปิดโรงงานอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทำให้ไม่สามารถจัดส่งชิ้นส่วนรถยนต์ของฮุนไดมาที่ประเทศเกาหลีใต้ได้
.
ด้านธุรกิจการบินทั่วโลกยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่หลากหลายสายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบินเข้าและออกจากจีนแผ่นใหญ่รวมดันเกือบ 25,000 เที่ยวบินนั้น สายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ประกาศตัดลดจำนวนเที่ยวบินถึง 90% ของเส้นทางบินเข้าและออกจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ ส่งผลให้ความสามารถในการให้บริการการบินทั่วโลกในภาพรวมลดลงถึง 30% ขณะที่สายการบินลุฟท์ฮันซ่าชื่อดังในเยอรมนี ประกาศขยายเวลายกเลิกเส้นทางบินเข้าและออกจีนแผ่นดินใหญ่ไปถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
.
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า สถานการณ์โรคระบาดปอดอักเสบไว้รัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวทั่วโลกมากกว่า 20,500 รายเมื่อนับจนถึงวันนี้ 4 กุมภาพันธ์ องค์การอนามัยโลกพิจารณาว่ายังไม่เกิดภาวะโรคระบาดกระจายในวงกว้าง หรือภาวะ Pandemic แต่อย่างใด สาเหตุจากยังมีปัจจัยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับภาวะการระบาดกระจายในวงกว้างของโรคดังกล่าวในขณะนี้ ซึ่งองค์การอนามัยโลกจะได้ประเมินสถานการณ์และเปิดแถลงถึงพัฒนาการของโรคระบาดดังกล่าวต่อไป ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับภาวะการระบาดกระจายในวงกว้าง
.
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสในแถบเอเชียวันนี้ 4 กุมภาพันธ์ พบว่า กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์พบผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่อีก 6 ราย โดย 4 รายติดจากนักท่องเที่ยวจีน อีก 2 รายเป็นชาวสิงคโปร์ที่อพยพกลับจากอู่ฮั่น รวมผู้ติดเชื้อโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ในสิงคโปร์เป็น 24 ราย ทำสถิติมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลกและนอกจีนแผ่นดินใหญ่ ด้านประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขไทยแถลงพบผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่อีก 6 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 4 ราย ในจำนวนดังกล่าวมี 2 รายกลับจากไปเที่ยวญี่ปุ่น ส่วนอีก 2 รายเป็นคนไทยไปรับทัวร์จีน และมีผู้ติดเชื้อเป็นชาวจีน 2 ราย สรุปรวมผู้ติดเชื้อในไทย 25 ราย ทำสถิติมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก และมากเป็นอันดับ 2 นอกจีนแผ่นดินใหญ่