IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้เหลือ 4.9% หวั่นเงินเฟ้อ-สงครามรัสเซีย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพียง 4.9% ในปี 2565 ซึ่งลดลง 0.5% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. โดยได้ระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มเผชิญปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงและเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ สงครามรวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเอเชียเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อในเอเชียจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.4% ในปี 2565 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.

ด้านนางแอน-มารี กูลด์-วอล์ฟ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า แม้ว่าการค้าและการเงินของเอเชียได้รับผลกระทบจากสงครามในวงจำกัด แต่เศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตสงครามผ่านทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าของเอเชีย

อัตราเงินเฟ้อในเอเชียเริ่มดีดตัวขึ้นนับตั้งแต่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงและสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะ Stagflation ซึ่งเป็นภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง จะสร้างความท้าทายให้กับบรรดาธนาคารกลางในเอเชีย เนื่องจากหนี้สินในรูปสกุลเงินดอลลาร์ของเอเชียนั้นมีมูลค่ามหาศาล

“สงครามในยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 รวมทั้งการที่เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และการล็อกดาวน์เมืองสำคัญของจีนที่ยืดเยื้อยาวนาน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย” นางกูลด์-วอล์ฟกล่าว