IMF เตือนรัฐบาลทั่วโลกใช้เงินอย่างระวัง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นด้านการคลัง ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกต้องหันมากู้ยืมเงินมากขึ้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่ง IMF กล่าวว่าระดับหนี้อาจทะยานสู่ระดับสูงสุดในปีนี้
.
โดยความต้องการการสนับสนุนทางการเงินมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามว่าประเทศต่างๆจะสามารถพยุงการเงินได้อย่างไรโดยไม่มีหนี้สิน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
.
ขณะที่รัฐบาลจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำเป็นประวัติการณ์และจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลายาวนาน แต่ปัญหาก็คือการกู้เงินมหาศาลเพื่อมารองรับการระบาดและช่วยพยุงภาคธุรกิจไม่ให้ล้มละลาย จะทำให้เกิดหนี้ที่มากกว่า 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั่วโลกในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
.
ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน IMF คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอยที่เลวร้ายลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจโลกติดลบ 4.9% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการถดถอยที่หนักที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เมื่อทศวรรษที่ 1930
.
ทำให้ต้นทุนการกู้เงินอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และตลาดชายขอบเช่นที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม สำหรับประเทศที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติพร้อมกับหนี้มากและเศรษฐกิจถดถอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจำเป็นจะต้องหันกลับไปใช้นโยบายที่สมดุล
.
ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการตามแผนการคลังระยะกลางที่น่าเชื่อถือโดยอาศัยการปรับปรุงการระดมรายได้ รวมถึงการลดการหลีกเลี่ยงภาษีให้น้อยที่สุด ใช้อัตราภาษีก้าวหน้าให้มากขึ้นในบางกรณี การกำหนดต้นทุนการปล่อยคาร์บอน และมีประสิทธิภาพการใช้จ่ายที่สูงขึ้น