PTT เผยปี 63 มีกำไร 37,765 ล้านบาทลดลง 59.4% จากปีก่อน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการปี 63 มีกำไร 37,765.80 ล้านบาท หรือ 1.32 บาท/หุ้น ลดลง 59.4% จากปี 62 ที่มีกำไร 92,950.60 ล้านบาท หรือ 3.20 บาท/หุ้น
.
ในปี 63 ปตท. มี EBITDA จำนวน 225,672 ล้านบาท ลดลง 63,300 ล้านบาท หรือ 21.9% จากปี 62 สาเหตุหลักจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ลดลงตามราคาขายเฉลี่ย และกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ลดลงจากขาดทุนสต๊อกน้ำมันประมาณ 19,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง ตามราคาขายที่ลดลงจากผลกระทบโควิด 19และการปิดซ่อมบำรุง
.
นอกจากนี้ยังรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์สุทธิภาษีจำนวน 9,478 ล้านบาท โดยหลักจากธุรกิจถ่านหิน จำนวนประมาณ 7,700 ล้านบาท ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำนวนประมาณ 1,600 ล้านบาท และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น จำนวนประมาณ 180 ล้านบาท
.
ไตรมาส 4/63 มีกำไร 14,120 ล้านบาท ลดลง 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 62 โดยกำไรที่ลดลง โดยหลักเกิดจากการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์สุทธิภาษีจำนวน 7,696 ล้านบาท โดยหลักจากธุรกิจถ่านหินจำนวนประมาณ 6,800 ล้านบาท ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำนวนประมาณ 690 ล้านบาท และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นจำนวนประมาณ 180 ล้านบาท รวมถึงขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ในไตรมาสนี้
.
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/63 EBITDA เพิ่มขึ้น 4,666 ล้านบาท หรือ 7% สาเหตุหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบสายโอเลฟินส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น
.
คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสด จำนวน 0.82 บาท วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 4 มี.ค.64 วันที่จ่ายปันผล 30 เม.ย. 64 โดยกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่9 เม.ย. 64 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว
.
สำหรับปี 64 คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเทียบกับปี 63 จากเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัวและแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในหลายประเทศ
.
ด้านความคืบหน้าโครงการต่างๆ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 5 จากระยองไปไทรน้อย – โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ/ใต้ และ ระบบท่อส่งก๊าซฯ จากสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ราชบุรี – วังน้อยที่ 6 ไปยัง จ.ราชบุรี จะแล้วเสร็จในปี 64 ทั้ง 2 โครงการ ส่วนโครงการ LNG Receiving Terminal 2 มีกำหนดส่งก๊าซธรรมชาติได้ภายในปี 65
.
นอกจากนี้ บริษัทย่อย บริษัท อัลฟ่าคอม จำกัด (บริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้นทางอ้อม 100%) ได้จดทะเบียน จัดตั้งบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จา กัด (“On-I on Solutions”) เพื่อดำเนินการและพัฒนาเครือข่ายสถานีเครื่องอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ า (EV Charging Station) นอกสถานีบริการน้ำมัน ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว