SCC เผยปี 63 มีกำไร 34,143 ล้านบาท โต 7%

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/63 มีกำไร 8,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 หลังธุรกิจเคมิคอลส์ดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบลดลง
.
อย่างไรก็ตาม EBITDA ลดลง 12% เนื่องจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมลดลง ขณะเดียวกัน รายได้จากการขายลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากปริมาณขายของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ลดลง และการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน MOC และรายได้จากการขายของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างลดลง
.
ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาส 3/63 กำไรจะลดลง 17% โดย EBITDA เท่ากับ 18,300 ล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสก่อนโดยกำไรที่ลดลงมาจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงฝนตกหนักและน้ำท่วมในภูมิภาค ประกอบกับมีขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของธุรกิจซีเมนต์ในประเทศเมียนมาและอินโดนีเซีย
.
โดยรายได้จากการขายเท่ากับ 97,250 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ธุรกิจเคมิคอลส์มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานของมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) ในไตรมาสนี้
.
ส่วนปี 63 บริษัทมีกำไร 34,143.87 ล้านบาท หรือ 28.45 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 7% จากปี 62 ที่มีกำไร 32,014.28 ล้านบาท หรือ 26.68 บาท/หุ้น โดยกำไรปี 63 ที่เพิ่มขึ้นมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจแพคเกจจิ้ง ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 23% ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์กำไรโต 18% เคมิเคิลส์โต 14%
.
ทั้งนี้ รายได้จากการขายลดลง 9% จากปีก่อน จากราคาและปริมาณขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง แต่ EBITDA ลดลงเพียง 1% จากปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องและต้นทุนการผลิตที่ลดลงในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
.
นอกจากนี้คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสด งวด 1 ก.ค.63 ถึง 31 ธ.ค.63 จำนวน 8.50 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 8 เม.ย. 64 วันที่จ่ายปันผล 23 เม.ย. 64 โดยทั้งปี 63 เอสซีจีจะจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น ในอัตรา 14 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจานวนเงิน 16,800 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ SCC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ได้ก่อสร้างโรงงานสาธิตสาหรับการรีไซเคิลพลาสติกผ่านกระบวนการรีไซเคิลทางเคมี (Chemical Recycling) แล้วเสร็จ โรงงานสาธิตดังกล่าวสามารถผลิต Renewable Feedstock โดยใช้พลาสติกใช้แล้วเป็นวัตถุดิบ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว มีกาลังการผลิต 4,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ Renewable Feedstock ที่ได้จะนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ของบริษัทในธุรกิจเคมิคอลส์ ของ SCC ต่อไป
.
ส่วนในปี 64 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 399,939 ล้านบาท โดยมาจาการเติบโตของธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจแพ็คเกจจิ้งหรือบรรจุภัณฑ์ ส่วนธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง คาดว่าครึ่งปีแรกยังได้รับผลกระทบการระบาดโควิด-19 อยู่ แต่คาดหวังครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัว