SET Index ปิดตลาดร่วง -4.39 จุดจากแรงเทขายทำกำไร คาดสัปดาห์หน้าปรับขึ้นหลังเห็นแรงรับ

ดัชนี SET Index ปิดตลาดอยู่ที่ 1,555.11 จุด บวก -4.39 จุด หรือ -0.28% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 43,293 ล้านบาท ดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,549.57 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,559.43 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 240 หลักทรัพย์ ลดลง 194 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 212 หลักทรัพย์

3 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,465.24 ล้านบาท ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,118.34 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,680.25 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

ขณะที่ตลาด SET50 ปิดที่ 941.58 จุด ปรับลง -4.37 จุด หรือ -0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,122.21 ล้านบาท

ด้านตลาด mai ปิดที่ 501.30 จุด ปรับขึ้น +4.70 จุด หรือ +0.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,317.37 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นแรง โดยมีแรงขายทำกำไรออกมา แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน สะท้อนแนวโน้มตลาดอยู่ในทิศทางบวก

ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดฯ ปรับตัวขึ้นได้ โดยให้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ โดยตลาดคาดเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) จะขยายตัว 5.25% หากออกมาต่ำกว่าคาดจะส่งผลดีต่อตลาด รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ตลาดคาดเฟดน่าจะตรีงอัตราดอกเบี้ย สะท้อนทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเข้าสู่ปลายทาง ให้แนวต้านไว้ที่ 1,578-1,587 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด

หมายเหตุ – ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน