วันนี้ (17 ม.ค. 67) จะมีการพิจารณาชำระหนี้งานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ต้องชำระให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานและให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือรถไฟฟ้า BTS
โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้เสนอเรื่องดังกล่าวเพื่อขออนุมัติงบต่อสภากรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งจะประชุมพิจารณาในวันที่ 17 ม.ค. 67 โดยยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอต่อการชำระหนี้ส่วนนี้ให้แก่เอกชนผู้รับจ้างได้ทันที ประเมินวงเงินเบื้องต้นมากกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กทม. จะนำเงินสะสมจ่ายขาดที่มีอยู่ 4-5 หมื่นล้านบาท มาชำระ
อีกทั้งงานค่าจ้างส่วนนี้เกิดจากค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้า เป็นก้อนหนี้ที่ครบกำหนดต้องชำระให้กับภาคเอกชน และที่ผ่านมาคณะกรรมการวิสามัญยังประชุมพิจารณาไปแล้วถึง 5 ครั้ง ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงมองว่าค่าจ้างส่วนนี้มีข้อมูลพิจารณาเพียงพอที่จะชำระให้เอกชนได้
ส่วนงานค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง O&M (Operation and Maintenance) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 (อ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า) และส่วนต่อขยายช่วงที่ 2 (แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เรื่องนี้ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นยังต้องรอกระบวนการศาลพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อน
ขณะที่ ขั้นตอนการพิจารณาจัดใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เพื่อชำระค่าจ้างงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ประเมินว่าหากที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติอนุมัติให้จัดใช้เงินสะสมจ่ายขาดเพื่อชำระค่าจ้างส่วนนี้ได้ รวมทั้งมีมติให้ตั้งคณะกรรมการออกข้อบัญญัติเพื่อพิจารณารายละเอียดการใช้งบประมาณ ก็จะใช้เวลาราว 2 เดือนในการรวบรวมข้อมูล ก่อนกลับมาเสนอที่ประชุมสภา กทม.ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ก่อนมีผลให้จ่ายเงินแก่เอกชนคู่สัญญา
สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย โดยมีมูลหนี้แบ่งเป็น หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199 ล้านบาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786 ล้านบาท