เมย์เดย์ๆ ทราบแล้วอึ้ง วันขึ้นราคาสินค้าแห่งชาติโดยนัดหมาย ต้นทุนคนไทยจ่ายแพงขึ้นขั้นต่ำ 6.7% ชั่วข้ามคืน แต่รายได้นิ่งอยู่ในตู้แช่แข็ง

คิดแบบชิลๆ ใช้ฐานราคาน้ำมันดีเซลของปั๊มรัฐเมื่อวานนี้ที่เป็นวันหมดโปร เช้าวันนี้วันแรงงานแห่งชาติของไทย คนใช้ดีเซลจ่ายทันที 32 บาท นั่นคือต้นทุนใช้ชีวิตคนไทยขึ้นทันทีอย่างน้อย 6.68% นี่มองเฉพาะด้านเดียวเอาแค่ราคาน้ำมันดีเซล เรียกว่าขอมองโลกสวยทีละนิด

ราคาดีเซล 32 บาทต่อลิตร ไม่ได้หยุดแค่นี้ แต่ยังมีเหลืออีก 3 วันจันทร์ข้างหน้าในเดือนพฤษภาคมที่ต้องขึ้นต่อ ถ้าโชคดี มีกรณีเดียว คือราคาน้ำมันโลกลด ก็จะได้หายใจชั่วคราวว่าราคาดีเซลไม่ขึ้นต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ขอย้ำว่า ไม่ได้ขึ้นต่อเนื่องชั่วคราว เพราะยังไง เป้าหมายมีไว้ให้ดีเซลพุ่งชนลิตรละ 35 บาท พุ่งชนเงินในกระเป๋าสตางค์จริง และกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ ก็สุดแท้แต่จะเรียก

พอหันกลับมามองสลิปเงินเดือน เอาสมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินเดือนโอนเข้าจากเจ้านายไปอัปเดต ไม่ยักจะมีเงินพิเศษโอนเข้ามาสัก 5% หรือ 6% บ้างในบัญชีมนุษย์เงินเดือน ดูแล้วรู้สึกเหมือนเงินทองรายได้ถูกแช่ในช่องฟรีซ ก็ช่องแช่แข็งในตู้เย็น ส่วนเจ้าของกิจการคงมีเติมราคาขายสินค้าดักไปก่อนแล้ว ถ้าเป็นภาษานักเล่นหุ้น ก็ประมาณรับปัจจัยนี้ใส่ในราคาหุ้นที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าเจ้าของกิจการมัวแต่ช้า ก็ควรไปบริหารมูลนิธิ หรือสมาคม แต่ก็ใช่ว่าจะบริหารกันง่ายๆ กับยุคสมัยแพงทุกเม็ด แพงทั้งแผ่นดิน

เมย์เดย์ปีนี้ 2565 เป็นวันประวัติศาสตร์ตรงที่ว่า ข้าวของขึ้นราคาโดยนัดหมาย ถัดจากน้ำมันดีเซลขึ้นอีก 2 บาทต่อลิตรไปแล้ว วันนี้ยังเป็นวันจ่ายค่าก๊าซหุงต้มถัง 15 กิโลกรัม แพงขึ้นอีกถังละ 15 บาท อย่าลืมนะ นี่ไม่รวมค่าไรเดอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งก๊าซตามบ้าน อย่าลืมนะ นี่เป็นการขึ้นครั้งที่ 2 และอย่าลืมว่าจะขึ้นค่าก๊าซหุงต้มไปสุดรอบที่ 3 ครั้งสุดท้ายในเดือนหน้า

ยังมีอีก วันนี้ค่าไฟเอฟที ที่เรียกกันว่าค่าไฟฟ้าผันแปรในช่วงพฤษภาคมถึงสิงหาคมก็ขึ้นอีก เอาเข้าใจง่ายๆ ยืนพื้นเลย เจ้าบ้านในตรอก ซอย ถนน ห้องแถวหลังจิ๋ว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดหรือห้องซอยย่อย คฤหาสน์ ไปถึงโรงงาน จ่ายค่าไฟเพิ่มหน่วยละ 4 บาท

ใครปลูกบ้านไม่ทันก่อนวันแรงงานปีนี้ หนีไม่พ้นจ่ายค่าสร้างบ้านแพงขึ้นอีก 5-10% ก็เริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้อีก นี่คิดเฉพาะคนมีอันจะกินไปให้บริษัทรับสร้างบ้านช่วยสร้างให้ ส่วนคนจ้างผู้รับเหมาเอง ก็ต้องจ่ายแพงขึ้นจากค่าโสหุ้ยสารพัดที่เกี่ยวกับการสร้างบ้าน ไล่กันตั้งแต่เหล็กนี่ตัวแพงยังไม่สุดๆ เวลานี้

ใครจะไปเชื่อ คนอู้ฟู่ยังไม่ได้ทำสัญญาจองซื้อรถยนต์หรูหราอย่างค่ายใบพัด หรือค่ายกังหันสีฟ้า พอนึกกันออกมั้ยว่าค่ายรถหรูอะไร ก็ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ยังขึ้นราคาขายกันตั้งแต่คันละ 100,000 ไปถึงสูงสุด 200,000 บาทต่อคันแทบทุกรุ่น เอาเป็นว่าแม้จะเป็นรถหรูของคนรวยจริง หรือรวยเสมือนจริง เริ่มวันแรงงานนี้เป็นต้นไป คนมีฐานะก็ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย ถึงไม่เสทือนซางตามภาษาชาวบ้าน แต่ถามตรงๆ ไม่ว่าคนรวยถึงคนคน มีใครอยากซื้อแพงเมื่อรู้ว่าของขึ้นราคาแน่ๆ

คงไม่มีใครบ่น หรืออาจจะบ่นเล็กบ่นน้อยก็ไม่น่าจะมาก ถ้าข้าวของต้องมีปรับราคา หรือมีราคาปรับขึ้นมาแพงกันแบบเหลื่อมๆกันบ้าง แต่ใครจะไปนึกถึงว่าวันแรงงานแห่งชาติปีนี้ สารพัดสินค้าขึ้นราคายกแผง แพงยกพรึบในวันเดียวกัน กำลังซื้อกลายเป็นกำลังไม่ซื้อทันที หรือกว่าจะซื้อได้ มีคิดนาน ตัดสินใจช้า ส่วนคนขายรู้ทั้งรู้ว่าขึ้นราคาขายอีก ก็เตรียมนั่งนอนหาว ส่งคืนพื้นที่เช่า เพราะลูกค้าหนีหายแม้จะไม่ตายจากกัน

นาทีนี้ ความท้าทายที่แท้ทรูเพื่อแก้ หรือลดดีกรีจากวิกฤตปากท้องลงมาเป็นปัญหาทำกินที่พอรับๆ กันได้ ก็ต้องมีคนเก่ง คนทำเป็น เสมือนองค์กรธุรกิจที่จะรอดหรือรุ่ง ก็ต้องมีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO (Chief Executive Officer) คนที่ใช่ มากกว่ามีประธานเจ้าหน้าที่สั่งการ หรือ CCO (Chief Command Officer) คนที่ไม่ใช่ เพราะบริหาร กับ สั่งการ ให้ผลลัพธ์คนละทิศทาง ยิ่งกับภาวะเศรษฐกิจทุกข์ยากครั้งประวัติศาสตร์ทั่วทุกตารางเมตรของแผ่นดินไทยกับคนเกือบทั้งประเทศในทุกวันนี้และยังจะหนักมากขึ้นกับลูกๆ หลานๆ ในอนาคต

อืม นี่ยังพอเหลือข้าวของสินค้า เครื่องมือ เครื่องใช้ ของกิน น้ำดื่มอะไรบ้าง ที่ตกขบวนไม่ได้ขึ้นราคาขายในวันแรงงานแห่งชาติไทย วันที่ราคาสินค้าขึ้นพร้อมกันโดยนัดหมายครั้งประวัติการณ์ชาติไทย !!!