เลื่อนอีกแล้ว! วัคซีนโมเดอร์นาดูท่าจะเลื่อนไม่หยุด ถึงขั้นทำคนรอเกิดท้อใจ!

คนไทยตั้งคำถามว่าเมื่อตนยอมควักเงินซื้อวัคซีนโมเดอร์นาเอง แต่เหตุไฉนทำไมถึงยังไม่ได้ฉีด? ที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือหลายโรงพยาบาลกลับเปิดให้จองรอบ 2 และรอบ 3 ซึ่งดูแล้วช่างน่าขำ เพราะวัคซีนรอบแรกที่สั่งจองไปยังเดินทางมาไม่ถึงเลย…

คนไทยสงสัยเมื่อไรจะได้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา?

มหากาพย์ดราม่าวัคซีนทางเลือกที่ทำเอาคนไทยรอจนรากงอก เพราะสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นาไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2564 และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านไปถึงสี่เดือนแล้ว แต่วัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาก็ยังไม่เข้าประเทศไทยเสียที ซ้ำยังเลื่อนจากกำหนดเดิมที่ว่าจะเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคมออกไป ซึ่งปัจจุบันก็ดูจะไร้วี่แวว

หากย้อนไทม์ไลน์ไปก็จะพบว่า คนไทยโอนเงินจองวัคซีนโมเดอร์นากับทางโรงพยาบาลเอกชนไปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยในช่วงนั้นนายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) เผยถึงยอดการสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นาว่ามีผู้จองเข้ามามากกว่า 9 ล้านโดส ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ เพราะประชาชนมองว่าวัคซีน mRNA มีคุณภาพ ต่อมาในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ทางองค์การเภสัชกรรมได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขายอย่างเป็นทางการในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวนประมาณ 5 ล้านโดสผ่านบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย โดยวัคซีนทั้งหมดจะทยอยนำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 (ตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) โดยแผนการนำเข้าที่ทางองค์การเภสัชกรรมเคยแจ้งไว้เบื้องต้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ระบุว่าผู้ผลิตจะสามารถส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 1,958,400 ล้านโดส ได้ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้

หลังจากที่องค์การเภสัชกรรมประกาศแผนนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาไปได้ไม่นาน ในวันที่ 27 กันยายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ได้เปิดเผยแผนจัดซื้อวัคซีนของประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีโมเดอร์นา และปรากฏว่าแผนการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส จากการประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดเป็นปมดราม่าขึ้นทันที เพราะข้อมูลที่เปิดเผยโดย ศบค. นั้นไม่ตรงกับที่องค์การเภสัชกรรมเคยประกาศไป หลายคนต่างบอกว่าเราไม่สามารถรอวัคซีนทางเลือกได้นานขนาดนั้น เพราะถึงแม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยจะดูลดลงมาก็จริง แต่ก็ไม่ได้ดีจนน่าไว้วางใจขนาดนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม (อภ.) สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และบริษัท แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาของประเทศไทย โดย ภญ. สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย แถลงว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ และค่อนข้างกดดัน ที่ผ่านมาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งติดตามทุกอาทิตย์ ซึ่งบริษัทแม่ของซิลลิคฯ ในต่างประเทศก็ช่วยกันติดตามและเร่งรัดทางโมเดอร์นาด้วย ตามข้อมูลล่าสุด ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า วัคซีนโมเดอร์นาจะเข้ามาภายในเดือนพฤศจิกายน โดยอาจจะเป็นต้นเดือนหรือกลางเดือนก็ได้ แต่ยังระบุวันที่ชัดเจนไม่ได้ จนกว่าวัคซีนจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพที่ประเทศต้นทาง ซึ่งบริษัทจะรู้ล่วงหน้าเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

ในส่วนของการนำเข้าจะทยอยเข้ามาในประเทศไทยสัปดาห์ละ 1-3 แสนโดส จนกว่าจะครบ 1.9 ล้านโดสภายในปี 2564 ส่วนที่เหลือจะมาในปี 2565 และเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีก 3-5 วัน ถึงจะเข้าสู่แวร์เฮาส์ของซิลลิคฯ และกระจายไปสู่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อฉีดประชาชนได้ ทั้งนี้ได้ระบุเพิ่มด้วยว่า ได้หาแหล่งผลิตทดแทนจากสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากยุโรป ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ อย. พิจารณาเอกสารในการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก เนื่องจากวัคซีนโควิดทั่วโลกขณะนี้เป็นการอนุมัติใช้ในภาวะฉุกเฉิน จึงต้องจัดซื้อผ่านหน่วยงานรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยหน่วยงานหลักคือองค์การเภสัชกรรม และมีการปลดล็อกเงื่อนไขทางกฎหมายของอีกบางองค์กร ได้แก่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สำหรับข้อสงสัยว่าจะมีการคืนเงินหรือไม่ เพราะประชาชนบางส่วนไม่สามารถรอได้แล้ว จึงตัดสินใจไปฉีดวัคซีนของภาครัฐแทน ด้าน นพ. เฉลิมระบุว่า วัคซีนสามารถเลื่อนไปฉีดในปี 2565 ได้ หรือสามารถโอนสิทธิ์ให้แก่บุตรหลานแทน เนื่องจากวัคซีนโมเดอร์นาสามารถฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ แต่จะไม่มีการคืนเงินการจอง เพราะในเอกสารการจองระบุช่วงเวลาการรับวัคซีนไว้ค่อนข้างยาว คือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – เดือนมีนาคคม 2565

ดราม่าต่อเนื่อง หลังจากที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประกาศขายวัคซีนโมเดอร์นาในราคา 555 บาทต่อ 50 ไมโครกรัม (ครึ่งโดส)

หลังจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ออกประกาศเปิดให้องค์กรนิติบุคคลและโรงพยาบาล จองวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนเข็ม 3 ได้ในราคา 555 บาท (50 ไมโครกรัม) ซึ่งจะเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ส่งให้เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นดราม่าสุดร้อนแรงในโลกออนไลน์ทันที หลายคนแสดงความไม่พอใจและมีการตั้งคำถามถึงราคาที่ถูกกว่าราคาจองวัคซีนโมเดอร์นากับโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ที่ 1,650 บาทต่อเข็ม รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็มีกำหนดวันฉีดที่ชัดเจน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แฮชแท็ก #โมเดอร์นา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยอันดับ 1 เพียงข้ามคืน

ล่าสุด วันที่ 17 ตุลาคม 2564 องค์การเภสัชกรรมได้ออกมาชี้แจงว่า องค์การเภสัชกรรมจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาให้แก่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนในขนาดความแรง 100 ไมโครกรัมต่อโดส โดยข้อแนะนำการรับวัคซีนโมเดอร์นาจะเป็นไปตามหลักสากลและอยู่ภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับข้อมูลที่ได้จากบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัด โดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงในรายงานของสหรัฐอเมริการะบุว่า สำหรับคนที่ต้องการ Booster เข็ม 3 หรือเข็ม 4 การฉีดด้วยความแรง 50 ไมโครกรัมก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับคนที่ฉีดเข็ม 1 หรือเข็ม 2 คำแนะนำคือฉีดด้วยความแรง 100 ไมโครกรัมจะดีกว่า ภายหลังจากข้อชี้แจงนี้ถูกประกาศออกไปก็ทำให้ประชาชนบางส่วนหายกังวลใจไปได้

สำหรับตอนนี้ ยังไม่มีความแน่นอนว่าโมเดอร์นาจะเข้ามาในประเทศไทยภายในวันไหน เพราะซิลลิค ฟาร์มา ผู้นำเข้าก็บอกว่าไม่มีอะไรแน่นอน ซึ่งเบื้องต้นก็ได้ย้ำว่าน่าจะได้สินค้าในเดือนพฤศจิกายน แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรแน่นอน ก็อาจจะทำให้คนไทยได้รับวัคซีนโมเดอร์นาในเดือนธันวาคม หรืออาจจะต้องรอกันต่อไป ก็คงต้องให้เป็นเรื่องของอนาคตที่น่าติดตาม

ทั้งนี้ ทีมงาน BTimes ก็ขอให้เป็นกำลังใจเล็กๆ ให้คนไทยทุกคนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาวิกฤตเหล่านี้ไปได้ ที่สำคัญการ์ดห้ามตก หมั่นล้างมือ และสวมแมสก์ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เป็นห่วงทุกคนนะคะ สู้ๆ ค่ะ