ไฟเซอร์เตรียมยื่นอย.สหรัฐหลังวัคซีนได้ผลถึง 95%

บริษัท ไฟเซอร์ ยักษ์เวชภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นขออนุมัติและรับรองวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FDA ภายในไม่กี่วันข้างหน้า สาเหตุจากวัคซีนดังกล่าว ซึ่งร่วมผลิตกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค ยักษ์เวชภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี มีผลการทดลองกับอาสาสมัครในระยะที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม คิดเป็น 95%
.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายอัลเบิร์ต โบล่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) แถลงว่า การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ร่วมกันกับไบโอเอ็นเทค ปรากฎว่าได้ผลถึง 90% ในการป้องกันไม่ติดโรคระบาดโควิด-19
.
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านไป นายสตีเฟ่น แบงค์เซลประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัทโมเดอร์นา ยักษ์ผลิตเวชภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา แถลงว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของโมเดอร์นา ซึ่งทำการทดลองในระยะที่ 3 ได้ผลในการป้องกันถึง 94.5%
.
บริษัทโมเดอร์นา เตรียมยื่นเรื่องต่อองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ หรือ FDA ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้วัคซีนเพื่อการฉุกเฉิน หากได้รับการอนุมัติ บริษัทโมเดอร์นา คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2563 จะผลิตวัคซีนได้ถึง 20 ล้านชุด และพร้อมจัดส่งในสหรัฐอเมริกา สำหรับในปี 2564 บริษัทโมเดอร์นา ยังคงกำหนดแผนการผลิตวัคซีนที่ 500 ล้าน ถึง 1,000 ล้านชุด ราคาของวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา จะมีราคาระหว่าง 32-37 ดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 1,024-1,118 บาทต่อ 1 ชุด
.
ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ในการพิจารณาว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จะเป็นที่ยอมรับและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผลนั้น นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ตั้งไว้ว่าต้องมีประสิทธิภาพถึงระดับ 75% ก่อนหน้านี้ ดร.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานโรคระบาดโควิด-19 แห่งทำเนียบขาว สหรัฐ เคยกล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ต้องมีประสิทธิภาพถึงระหว่าง 50% หรือ 60% จึงจะเป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีพอ ที่จะพิจารณาให้การยอมรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19