กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายเงินบัตรคนจน ก.ค.นี้ ขยายเพิ่มค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาท อีก 3 เดือน

305
0
Share:
กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายเงิน บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.ค.นี้ ขยายเพิ่มค่า ก๊าซหุงต้ม 100 บาท อีก 3 เดือน

น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพรอบใหม่ เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพง โดยในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับการขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม จำนวน 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2565) ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิวงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

ขอสรุปรายละเอียดวงเงินสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประจำเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565 ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
– ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2565)

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
– ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
– ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
– ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

ทุกวันที่ 15 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่ ตุลาคม 2564 – กรกฎาคม 2565 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เมษายน – กันยายน 2565)

ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
– เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)