ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 330 จุด

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,529 จุด +332 จุด หรือ +1.03% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,072 จุด +48 จุด หรือ +1.21% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,162 จุด +130 จุด หรือ +1.08% ส่งผลให้ในช่วง 2 วันทำการติดกัน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งพุ่งทะยานสูงถึง +768, +150 และ +599 จุด ตามลำดับ

สาเหตุจากตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาสที่ 2 ซึ่งประกาศในคืนผ่านมา พบว่าหดตัว -0.6% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ที่หดตัว -1.6% ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะถดถอยตามทฤษฎี หรือทางเทคนิค แต่ตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าจะเป็นแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจลดน้ำหนักในการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นไม่รุนแรงในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 21-22 กันยายน นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทที่ยังทยอยประกาศยังคงเป็นไปตามที่คาดไว้โดยส่วนใหญ่

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 96.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.9% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจาก ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงมากถึง 4.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ รัสเซียประกาศลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ด สตอร์ม 1 โเยมีปริมาณก๊าซธรรมชาติเหลือเพียง 20% จากปริมาณปกติ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงทันทีหลังสิ้นสุดการประชุมวันที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในคืนที่ผ่านมากับการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.75%

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,752.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +30.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.97% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน นอกจากนี้ ราคาทองคำล่วงหน้าดำดิ่งมากถึง 380 ดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สาเหตุจากตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐอเมริกาหดตัว -0.6% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ที่หดตัว -1.6% ซึ่งเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนโถมเข้าลงทุนทองคำอย่างคึกคัก ซึ่งมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้ และภาวะถดถอยดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาลดความรุนแรงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมครั้งต่อไปในช่วงต้นสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกันยายน รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบ 2 ปี

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมา ปรับลดลงทันทีหลังธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75%