การบินไทยวาดฝันออกจากแผนฟื้นฟูเร็วขึ้น อาจไม่กู้เงินถึง 25,000 ล้านบาท

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน และการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขายทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเป็นสำนักงาน และทรัพย์สินในต่างประเทศ เนื่องจากแผนธุรกิจ หรือโครงสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้การขายตั๋วโดยสารผ่านระบบออนไลน์จะมีบทบาทมากขึ้น จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องข่ายตั๋วผ่านเอเจนท์ ซึ่งมีความสำคัญลดลงต่อเนื่อง ดังนั้น การบินไทยจึงไม่มีความจำเป็นต้องเก็บทรัพย์สินในต่างประเทศไว้อีกต่อไป

ด้านผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ดีขึ้น จากจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความพยายามในการปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้  อาจส่งผลให้บริษัทสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดได้ จากกระบวนการของการเข้าสู่แผนฟื้นฟู กำหนดให้บริษัทสามารถอยู่ภายใต้แผนได้ 5 ปี และขยายได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี รวมเป็น 7 ปี

นอกจากนี้ หากดูจากผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีกระแสเงินสดของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนและแนวโน้มยังมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทอาจต้องทบทวนว่ามีความจำเป็นในการขอสินเชื่อใหม่ภายใต้วงเงิน 25,000 ล้านบาท หรือไม่ แต่หาก ดูจากกระแสเงินสดของบริษัทในปัจจุบันทำให้อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สินเชื่อใหม่ถึง 25,000 ล้านบาท ซึ่งแผนการของสินเชื่อใหม่ดังกล่าว ถือว่าลดลง หากเทียบกับ แผนฟื้นฟูเดิม ที่มีแผนกู้เงินจากสถาบันการเงินถึง 5 หมื่นล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน และการบัญชี กล่าวว่า การบินไทยจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้เมื่อใดนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไป  ส่วนแผนจะนำหุ้นกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าจะกลับมาเทรดได้ก่อนกำหนดที่จะถูกเพิกถอนในช่วงมี.ค.2568