ขายปลีกดิ่ง-ลงทุนร่วง-ว่างงานพุ่ง-ยอดขายอสังหาฯทรุดในจีนแผ่นดินใหญ่

สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจในเดือนพฤศจิกายน 2564 ปรากฏว่า มีตัวเลขลดลงแทบทุกภาคเศรษฐกิจ เริ่มจากยอดขายปลีกอยู่ที่ 3.9% ซึ่งตกต่ำมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 4.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว สาเหตุจากยอดขายรถยนต์ในประเทศซึ่งมีสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับทุกกลุ่มอื่นๆ พบว่ามียอดขายตกต่ำลง สอดรับกับยอดขายปลีกออนไลน์ที่ 13.2% ซึ่งต่ำกว่าในเดือนตุลาคมที่มียอดขายออนไลน์ที่ระดับ 14.6% ทั้งๆที่มีกิจกรรมการตลาดขายปลีกออนไลน์ที่เรียกว่า 11.11

ด้านการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น พบว่ามีการเติบโตที่ลดลงเหลือเพียง 5.2% ซึ่งต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ระดับ 5.4% ถึงแม้ว่าการลงทุนในภาคการผลิต และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่จะเติบโตใน 11 เดือนแรก แต่กลับพบว่ามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 โดยพบว่า การลงทุนในภาคการผลิตเติบโต 13.7% ซึ่งน้อยกว่าในช่วงเดียวกันที่ทำได้ถึง 14.2% ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตกลงเหลือ 6% ซึ่งลดต่ำกว่าในช่วงเดียวกันที่ขยายตัว 7.2%

ในด้านราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่า ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ และการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ล้วนตกต่ำลงทั้ง 2 รายการถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 64

นอกจากนี้ อัตราการว่างงานในเดือนพฤศจิกายน 64 ทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่กลับเพิ่มขึ้นแตะ 5% นอกจากนี้ จำนวนชั่วโมงเฉลี่ยทำงานของแรงงานลดลงจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

สาเหตุโดยรวมทั้งหมดเกิดจากการพบการระบาดโรคโควิด-19 ในหลายมณฑลของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมา ทำให้ทางการจีนใช้มาตรการปิดภาคธุรกิจเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายไม่อยู่ร่วมกับโรคระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลกลาง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่เผชิญวิกฤตการเงินจากภาวะหนี้สินที่กลายเป็นหนี้เสียพุ่งสูง ทำให้ขาดสภาพคล่องในการไถ่ถอนหุ้นกู้ของบรรดาเจ้าหนี้จำนวนมาก