คณะทำงานสอบทุจริตการบินไทยขอเดินหน้าต่อ แม้หลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ

702
0
Share:

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารกิจการของบริษัทและปัญหาการทุจริต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าการบินไทยจะเปลี่ยนสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทเอกชน กรณีกระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ต่ำกว่า 50% และหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจแต่ทางคณะทำงานชุดดังกล่าวยังจะเดินหน้าตรวจสอบทุจริตการบินไทยต่อ
.
นอกจากนี้คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเป็นคำสั่งของ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงสามารถดำเนินการต่อได้ อีกทั้งเป็นการสอบข้อเท็จจริง ไม่ใช่การสอบสวน และยังไม่มีการกล่าวหาใครจึงสามารถดำเนินการได้
.
โดยได้เชิญผู้บริหารจากฝ่ายต่างๆ ของการบินไทยมาสอบแล้ว จำนวน 4 ปาก ต้องสอบเพิ่มเติมอีกหลายปาก คาดว่าจะได้ผลสรุปภายใน 150 วัน หรือภายใน ส.ค.นี้ หากผลสอบพบว่ามีมูลการทุจริต คณะทำงานจะสรุปเรื่องเสนอให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาก่อน จากนั้นจะต้องส่งเรื่องต่อให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อาจมีการเสนอข้อมูลให้ตรวจสอบ เบื้องต้นมี 2 หน่วยงาน คือ
.
1.ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่
2.ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะส่งเรื่องให้ทั้ง 2 หน่วยดำเนินการ
.
รายงานจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ข้อมูลที่คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารกิจการของบริษัทและปัญหาการทุจริตการบินไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้นเป็นประเด็นที่สร้างความเสียหายกับการบินไทย ส่งผลกระทบต่อรายได้ อาทิ การขายตั๋ว การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมไปถึงโครงสร้างการบริหารที่มีความทับซ้อน
.
สำหรับข้อมูลที่สามารถรวบรวมได้ และมีแนวโน้มนำไปสู่การทุจริต คือ ข้อมูลการขายตั๋วโดยสารของการบินไทย ในปี 2562 พบว่ามีรายได้จากการขายตั๋ว และค่าขนสัมภาระ รวมอยู่ราว 1.4 แสนล้านบาท ขณะที่ปริมาณผู้โดยสาร มีจำนวน 25.4 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าค่าโดยสารต่อหัวเฉลี่ยของการบินไทยต่ำอยู่ที่ประมาณ 6,081 บาทต่อคน ถือว่าน้อยมาก และไม่สอดคล้องกับราคาตั๋วโดยสารที่แท้จริง