คุณาลัย มองรัฐลดค่าจดทะเบียนการโอน-จดจำนอง คาดกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

305
0
Share:
คุณาลัย มองรัฐลด ค่าจดทะเบียนการโอน - จดจำนอง คาดกระตุ้นการซื้อ อสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) ที่ผ่านมา “คุณาลัย”มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยปี 2561 มีรายได้รวม 447.09 ล้านบาท, ปี 2562 มีรายได้รวม 652.67 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้รวม 803.79 ล้านบาท, ปี 2564 มีรายได้รวม 996.39 ล้านบาท, และในปีนี้ 2565 บริษัทฯ มีความสามารถในการทำรายได้ แตะระดับ 1,001.62 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดขาย (Pre-Sale) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,439.90 ล้านบาท และมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในไตรมาส 1/2566 มูลค่า 175 ล้านบาท

ทั้งนี้แม้ว่า ในปี 2565 ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดการชะลอตัวจากตัวแปรด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับต้นทุนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทฯก็ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของตัวเลขกำไรสุทธิ แตะระดับ 106.63 ล้านบาทได้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นงวดปี 2565 เพิ่มเติมอีก ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น จากที่มีการจ่ายปันผลไปแล้วก่อนหน้านี้ ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยเตรียมวาระดังกล่าวเสนอประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 26 เมษายน 2566 เพื่อทำการอนุมัติและกำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เป็นลำดับต่อไป ซึ่งจากการจ่ายปัผลต่อเนื่อง ตอกย้ำได้ว่าหุ้น “KUN” เป็นหุ้น Growth Stock ในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งตัว

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2566 ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ระดับ 1,300 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย (Pre-Sale) ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยมองว่าทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 จากการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในทำเลบางบัวทองที่บริษัทฯ มีความชำนาญร่วมกับการเปิดโครงการบ้านระดับกลาง-บน และมุ่งขยายไปพัฒนาในทำเลอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งสอดรับกับดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากกำลังซื้อเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังจากมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้กลุ่มสถาบันการเงินกลับมาพิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากขึ้น อาทิ กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม กลุ่มธุรกิจสายการบิน และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวก็จะส่งอานิสงค์เชิงบวกต่อบริษัทฯ

ส่วนปัจจัยอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% – 5% จากค่างวดเดิมนั้น ภาครัฐบาลได้มีการออกมาตราการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

โดยในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการ จำนวน 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย นาวาร่า” 2 โครงการ และ “คุณาลัย เพอร์ร่า” 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,600 ล้านบาท