คุมเข้มโควิดทั่วโลก กดความต้องการใช้น้ำมันครึ่งปีแรกตกต่ำ

ภาวะการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีแนวโน้มชัดเจนว่า ความต้องการใช้น้ำมันดังกล่าวจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มุมมองที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปอย่างเลือนลาง
.
สาเหตุเกิดจากประเทศยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสหภาพยุโรป เช่น สหราชอาณาจักรปิดประเทศถึง 15 กุมภาพันธ์ เยอรมนีขยายมาตรการปิดล็อกถึงสิ้นเดือนมกราคม อิตาลีขยายการห้ามบินใน 20 แคว้นถึง 15 มกราคม เป็นต้น แต่ละประเทศใช้มาตรการปิดล็อกประเทศด้วยข้อจำกัดจำนวนมากที่เข้มข้น เช่น ห้ามการเดินทางระหว่างภูมิภาค เงื่อนไขในการเดินทางมีเพิ่มเป็นจำนวนมาก การปิดสถานที่สาธารณะหลายแห่ง
.
การจราจรในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรัฐที่มีปริมาณการใช้รถยนต์บนท้องถนนเป็นจำนวนมากแห่งหนึ่งในอันดับต้นๆของโลก พบว่า ปริมาณการจราจรลดลง 15% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการใช้รถยนต์สาธารณะในรัฐแคลิฟอร์เนียลดหายมากกว่า 60% ด้านยอดขายน้ำมันสำเร็จรูปโดยเฉลี่ยในปั้มน้ำมันที่ประเทศอังกฤษลดลงมากถึง 21% เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านไป
.
ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกเหลืออยู่ที่ 94.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงเกือบ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 นอกจากนี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านไป ไออีเอ ประเมินว่าปริมาณการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะอยู่ในระดับทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว
.