จะเที่ยวมาก! โพลคลุกชี้ชาวเอเชีย 81% พร้อมเที่ยวต่างประเทศ แต่ 80% ก็กังวลเศรษฐกิจ

368
0
Share:
จะเที่ยวมาก! โพล คลุก ชี้ ชาวเอเชีย 81% พร้อม เที่ยวต่างประเทศ แต่ 80% ก็กังวล เศรษฐกิจ

คลุก (Klook) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำที่รวมบริการต่างๆ ไว้ในที่เดียว เปิดเผยผลสำรวจจาก Klook ชี้ให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย 4 ใน 5 คน รู้สึกไม่มั่นใจที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2566 อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้นักท่องเที่ยวเอเชียจะมีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ความกังวลเหล่านั้นก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาจากการเดินทางท่องเที่ยวได้ โดยนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 81% ยืนยันว่าพวกเขามีแผนสำหรับทริปท่องเที่ยวต่างประเทศในปีหน้าแล้ว และ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น วางแผนที่จะเดินทาง 2-4 ทริปตลอดทั้งปี

สำหรับคนไทยนั้น ผลสำรวจชี้ว่า 69% ของคนไทยกังวลและไม่มั่นใจในการวางแผนท่องเที่ยวไปต่างประเทศในปี 2566 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงความกังวล แต่คนไทยมากกว่าครึ่งได้ยืนยันว่าพวกเขาได้วางแผนสำหรับไปเที่ยวต่างประเทศในปีหน้าแล้ว และมากกว่า 54% วางแผนที่จะเดินทางมากกว่า 5 ทริป

นักท่องเที่ยวกังวลอะไรมากกว่ากันระหว่าง ติดโควิดหรือค่าทริปเดินทางที่สูงขึ้น พบว่า 63% ของนักท่องเที่ยวเอเชียกังวลเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า แม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นแต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังยืนยันที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว โดยมากกว่า 80% ระบุว่าพวกเขาวางแผนที่จะจ่ายเงินเท่าเดิมหรือมากกว่าสำหรับทริปท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า โดยชาติที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากที่สุดได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในขณะที่ 39% ของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียระบุว่า มีความกังวลว่าจะติดโควิดระหว่างทริปท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ผลสำรวจกลุ่มคนไทยเผยว่า สิ่งที่คนไทยกังวลมากที่สุด 51% คือค่าใช้จ่าย รองลงมาคือข้อจำกัดด้านภาษา 32% ในขณะที่กังวลว่าจะติดโควิดเพียง 25% เท่านั้น โพลยังสะท้อนให้เห็นว่า แม้คนไทยจะกังวลเรื่องเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่กลับพบว่าคนไทย 48% วางแผนที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวในปีหน้า

แม้อุปสรรคจะเยอะแค่ไหน แต่ปีหน้าต้องได้เที่ยว นั่นคือการสะท้อนให้เห็นว่าท่ามกลางความวิตกกังวลและไม่แน่ใจในสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แต่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียยังคงไม่ยอมแพ้ในการวางแผนท่องเที่ยว โดย 35% ระบุว่าจะยังคงท่องเที่ยวแต่มองหาประเทศที่อยู่ใกล้ๆ หรือเลือกที่จะท่องเที่ยวในช่วงที่ไม่ใช่ช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ในขณะที่อีก 34% ระบุว่า พร้อมจะตัดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ออก เพื่อเก็บเงินไว้ท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ผลวิจัยยังระบุว่า ในปีหน้า นักท่องเที่ยวเกินครึ่งตัดสินใจที่จะวางแผนทริปล่วงหน้านานขึ้นเพื่อช่วยลดความกังวล ในขณะที่อีก 43% เลือกที่จะซื้อประกันการเดินทาง และ 35% ตัดสินใจที่จะไปเที่ยวในที่ที่คนไม่แออัด

การท่องเที่ยวจะกลับคืนมาในปีหน้าจริงหรือไม่ ? นางมิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม บริษัทคลูก เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ได้คาดการณ์สถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2566 ไว้ว่า “หลังจากสองปีที่การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก ในวันนี้การท่องเที่ยวเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ทุกคนมองหาและมีความต้องการที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความสุขอีกครั้ง จากผลสำรวจชี้ให้เห็นชัดเจนว่า แม้พฤติกรรมการท่องเที่ยวหรือทัศนคติเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่เห็นได้ชัดเจนว่า นักท่องเที่ยวพร้อมที่จะปรับตัวและมุ่งมั่นที่จะออกเดินทางไปสนุกกับการท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลตัวเองอีกครั้ง”

“ปี 2566 คือปีที่เราให้คำจำกัดความว่า Travelsilience คำนี้มาจาก Travel การท่องเที่ยว และ resilience หรือการฟื้นตัวกลับมา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่นักท่องเที่ยวตัดสินใจที่จะพาตัวเองออกเดินทาง และสร้างความทรงจำที่สนุกสนานจากการท่องเที่ยวอีกครั้ง แม้จะมีปัจจัยแง่ลบหลายอย่างเกิดขึ้น เช่นภาวะเศรษฐกิจ, หรือค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น แต่ดูเหมือนนักท่องเที่ยวชาวเอเชียจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องกลับมาเดินทางท่องเที่ยวให้ได้อีกครั้ง”

กิจกรรมยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียได้แก่ กิจกรรมสำหรับครอบครัว อาทิ พิพิธภัณฑ์,สวนสนุก และสวนสัตว์ นอกไปจากนั้น บริการรถเช่าและกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวไปนอกเมืองมากยิ่งขึ้น.

สรุปผลการวิจัยที่น่าสนใจ
– 4 ใน 5 ของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียมีความกังวลเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปี 2566 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
– 81% ของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียมีความตั้งใจที่จะไปเที่ยวต่างประเทศในปี 2566 โดยมีเพียง 19% ที่ยังไม่สนใจเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
– จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียคือ ญี่ปุ่น ประเทศไทย และเกาหลีใต้ ส่วนจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์และเกาหลีใต้

– กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวเมืองไทยได้แก่
– เที่ยวธรรมชาติและเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว: อาทิจุดชมวิวสูงบนดาดฟ้า, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
– เดินทางท่องเที่ยวโดยใช้บริการรถเช่าและใช้บริการเรือทัวร์ชมเกาะ หรือเรือชมวิวแม่น้ำ
– กิจกรรมเพื่อการผ่อนคลาย สปาและนวด
– ช่วงระยะเวลาการท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยคือ 3-5 วัน (43%) รองลงมาคือ 6-9 วัน (38%) และอีก 15% ระบุว่าวางแผนทริปท่องเที่ยวมากกว่า 10 วันขึ้นไป

– คนไทยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมากที่สุด 51% และกังวลเรื่องภาษา 32% กังวลเรื่องการเตรียมเอกสารต่างๆ 28% ในขณะที่กังวลว่าจะติดโควิดระหว่างการท่องเที่ยว 25%
– คนไทย 48% มีแผนจะใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวมากขึ้น และเกือบ 30% จะคงงบประมาณการท่องเที่ยวไว้เท่าเดิม และ 24% บอกว่าจะใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวน้อยลง
– เพื่อบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น คนไทย 36% ระบุว่าจะลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ในขณะที่ 30% ระบุว่าจะย้ายไปเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน และ 29% ระบุว่าจะไปเที่ยวในจุดหมายปลายทางใกล้ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
– เพื่อเป็นการลดความกังวลด้านการท่องเที่ยว คนไทย 45% วางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้านานมากขึ้น ในขณะที่ 27% ซื้อประกันการเดินทาง และ 27% หลีกเลี่ยงจุดหมายที่คนเยอะ