จีนยอมรับ! นักวิจัยจีนเผยภูมิคุ้มกันจากวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดสลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ หลังผ่านไป 6 เดือน
นักวิจัยระบาดวิทยาชาวจีนจากกรมควบคุมโรคระบาดในมณฑลเจียงซู ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ภูมิคุ้มกันโรคระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นหลังได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคครบ 2 โดส ลดต่ำลงเมื่อเปรียบเทียบกับค่าประสิทธิภาพกลางหลังจากผ่านไป 6 เดือนเมื่อนับจากวันที่ฉีดเข็มที่ 2 การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 อาจสร้างภาวะภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น
นักวิจัยชาวจีน เปิดเผยต่อไปว่า ผลการศึกษาดังกล่าวได้จากการเก็บตัวอย่างเลือดจากประชาชนวัยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงโดยมีอายุระหว่าง 18-59 ปี ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้ที่เข้าร่วมฉีดวัคซีนซิโนแวคซึ่งมีจำนวนรวม 100 ราย ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวครบ 2 โดส ซึ่งเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 มีช่วงระยะเวลาการถูกฉีดห่างกัน 2 หรือ 4 สัปดาห์ ปรากฎว่า มีเพียง 16.9% และ 35.2% ตามลำดับ ที่ยังคงมีระดับภูมิคุ้มกันสูงกว่าค่าประสิทธิภาพมาตรฐานเป็นเวลา 6 เดือนหลังจากได้รับการฉีดเข็มที่ 2
ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษานี้ ยังพบว่า เมื่อผู้เข้าร่วมที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3 หลังจากฉีดเข็มที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือนให้หลังนั้น ปรากฏว่าหลังจากนั้นเป็นเวลา 28 วัน เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายขึ้นประมาณ 3 ถึง 5 เท่า จากระดับภูมิคุ้มกันที่ตรวจพบหลังฉีดครบเข็มที่ 2
นักวิจัยชาวจีนจากกรมควบคุมโรคระบาด มณฑลเจียงซู กล่าวว่า ผลการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้ทำการทดสอบวัคซีนซิโนแวคกับโรคระบาดสายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องทำการวิจัย และศึกษาต่อไป
