ชิมช้อปใช้เฟส 2 ยังกระแสดีต่อเนื่อง

827
0
Share:

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันนี้ได้เปิดให้ลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 วันแรก รอบแรกตั้งแต่เวลา 06.00 น. จำนวน 5 แสนคน มีผู้ลงทะเบียนเต็มเวลา 07.18 น. ถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก โดยจะเปิดลงทะเบียนอีกรอบเวลา 18.00 น. จำนวน 5 แสนคน ซึ่งการกำหนดจำนวนผู้ลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ ในเฟส 2 ที่จำนวน 3 ล้านคน เป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว และยังไม่มีแนวคิดที่จะขยายจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่ม หรือ เปิดเฟส 3
.
โดยเป้าหมายของมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 คือ ต้องการกระตุ้นให้ผู้ได้สิทธิ์ใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 2 ซึ่งหลังจากนี้ต้องขอเวลาประเมินผลของมาตรการอีกระยะหนึ่ง เพราะได้มีการขยายเวลามาตรการจากเดิมสิ้นเดือน พ.ย. 2562 ไปถึง สิ้นเดือน ธ.ค. 2562 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
.
นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ ธนาคารพาณิชย์ในการลงพื้นที่เพื่อจูงใจให้ร้านค้า และผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มาเข้าร่วมในมาตรการมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้จ่ายผ่าน g-wallet 2 โดยเฉพาะในช่วงการท่องเที่ยวช่วงสิ้นปี
.
พร้อมได้ขยายสิทธิให้ผู้ประกอบการโรงแรม เช่ารถ บริษัททัวร์ในธุรกิจท่องเที่ยวสามารถนำสาขาทุกแห่งที่มีอยู่เข้าร่วมในมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 ได้ทั้งหมด จากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องเลือกเพียงจังหวัดเดียว ก็จะทำให้ผู้ได้สิทธิ์มีทางเลือกในการใช้จ่ายและท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการโรงแรมมีสาขาเปิดอยู่ทั่วประเทศ 13 แห่ง ก็สามารถนำสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าร่วมมาตรการได้
.
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ได้สิทธิ์จะมีการใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 2 มากขึ้น เนื่องจากมีการให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น มีการใช้เงินชดเชยเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจที่ดีขึ้น การเติมเงินเข้ากระเป๋า 2 ง่ายขึ้น และจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการมีมากขึ้น เปิดกว้างขึ้น สามารถจัดโปรโมชั่นร่วมการขายได้ การปรับเวลาการลงทะเบียน จะทำให้ได้กลุ่มคนทำงานเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงร้านค้าที่ร่วมโครงการจะไม่ถูกตรวจสอบภาษี
.
โดยประเมินว่าถ้าคนที่ได้สิทธิ์ตามมาตรการชิมช้อปใช้ มีการใช้จ่ายเงินกระเป๋า 2 เฉลี่ยคนละ 5,000 บาท ก็จะทำให้มียอดใช้จ่ายสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินในกระเป๋าเงินช่องที่ 1 อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีถึง 6 หมื่นล้าน
.
ส่วนผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟสแรก จำนวน 9.3 แสนคน ที่ได้สิทธิ์แต่ไม่มีการใช้เงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 1 และ 2 จะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถมาลงทะเบียนในเฟส 2 ได้